ผมขออนุญาติเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ "นิมิตหลอน" ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังเป็นวิทยาทาน เพื่อให้ทราบว่าผมเคยมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว กล่าวคือ ในครั้งที่ฝึกอย่างหนักในที่ทำงาน นั่นแหละ เรื่องมันก็เกิดในที่ทำงานนั้นเลย (ผมฝึกสติปัฏฐานตามจับอารมณ์โกรธตลอดเวลา ดังนั้น ขณะทำงานผมก็ทำสติปัฏฐานไปด้วยครับ) กล่าวคือ วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังประชุมและมีท่านอื่นๆ นั่งร่วมอยู่ในวงประชุมนั้นเอง ก็เกิดความรู้สึกเหมือน "ง่วงมากๆ" แทบจะหลับฟุปลงไปเลย ผมพยายามฝืนไม่ให้หลับในที่ประชุมต่อหน้าคนอื่น แล้วผมก็รู้ึสึุกวูบภายในเหมือน "หลับใน" ทว่า่ คุณคิดว่าหลับจริงไหม? ในเมื่อผมยังมีสติรู้และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ กล่าวคือ ผมเห็นภาพเบื้องหน้าผม (พื้นห้อง เพราะผมก้มหน้าลง) มันเหมือนเฟลมแต่ละเฟลมในฟิล์มฉายหนัง มันเหมือนค่อยๆ แสดงให้เราเห็นทีละเฟลม แต่ขอบอกว่ามันละเอียดยิบๆๆๆ ยิ่งกว่าเฟลมในฟิล์มฉายหนังมาก ผมเห็นตั้งแต่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ก่อตัว แล้วมันก็คล้ายๆ หน้าจอทีวีที่สัญญาณไม่ชัด มันมีจุดดำๆ ด่างๆ รบกวนภาพอยู่ ในใจผมก็คิดว่าเป็น "มด" หรือเปล่า ทันใดนั้น "มันก็กลายเป็นมดฝูงหนึ่ง" ทันทีครับ (ทันทีที่คิดเลย) ต่อมา จุดดำๆ ด่างๆ มันก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก (เฟลมต่อๆ มา) ผมก็เลยสงสัยว่ามันเป็น "หนอนหรือเปล่า?" เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ? มันกลายเป็น "หนอนทันที" อีกเช่นกัน คราวนี้ ผมเหมือนถูกผีมดผีหนอน หลอกเอากลางวันแสกๆ ทั้งๆ ที่ตายังไม่หลับนี่ละ (ไม่ไ่ด้นั่งสมาธิหลับตาแล้วเห็นภาพนิมิตนะครับ และไม่ได้นึดคิดเป็นมโนภาพอะไรทั้งนั้น มันเห็นจะๆ กะตาที่เปิดอยู่นี่แหละ) ผมก็ได้สติ สะดุ้งตื่น เหมือนคนถูกผีหลอกน่ะครับ แล้วภาพมดและหนอนทั้งหมดก็หายไป กลายเป็นพื้นห้องธรรมดา แต่ผมเก็บอาการภายนอกได้ดี ไม่มีใครในที่ประชุมสังเกตุเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมได้ และอีกอย่างหนึ่ง ช่วงที่ผมวูบไปนั้น ผมรู้สึกเหมือนผ่านเวลาเนิ่นนานเป็นพันปีเลยทีเดียว ทว่า ในความเป็นจริง เรายังคุยกันในที่ประชุม "เรื่องเดิมยังไม่จบเลยครับ" !!! นี่แหละ ผมเคยโดนมาแล้ว "นิมิตหลอน นิมิตหลอก" ไม่ใช่ไม่เคย โดน ทั้งๆ ที่ตาเปิดอยู่นี่ละ ไม่ได้หลับตานึกเอา จบ!
นิมิตหลอน
เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะบวชเณรเสียอีก นับย้อนไปประมาณ ๗ ปีกว่าเห็นจะได้ ตอนนั้นผมยังทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งแล้วผมได้รับความกดดันและความเครียดสูงมาก ผมจึงปฏิบัติธรรมไปด้วยระหว่างที่ยังทำงานอยู่นั่นเอง ผมปฏิบัติ "สติปัฏฐานสี่" โดยยังไม่ได้เข้าฝึกที่ไหน ไม่มีครูสอน แต่เพราะอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของ "หลวงพ่อ....." แล้วเกิดความศรัทธามาก ด้วยผมไม่เคยอ่านหนังสือแนวกรรมฐานที่ไหน ที่อธิบายได้ง่ายและเข้าใจได้ง่ายขนาดนี้มาก่อน ผมจึงปฏิบัติอย่างยิ่งยวด คือ ใช้ "สติ" ตามจับความโกรธ เพราะตอนนั้น ผมมีความโกรธมาก และมันมักทำให้งานผมเสีย และผมเห็นแล้วว่าเพราะความโกรธของผมนี่เองที่ทำลายสิ่งดีๆ หลายอย่างที่ผมทำขึ้นมา เวลาสติจับความโกรธได้ทัน ผมก็จะบริกรรมอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ความโกรธนั้น ค่อยๆ เบาบางจางหายไป จากที่ใช้เวลานานมากๆ ผมฝึกจนใช้เวลาสั้นลงๆ ทุกวันๆ จนผมเริ่มมั่นใจว่าสติของผมก้าวทันความโกรธได้ไม่น้อยแล้ว ผ่านมาถึงวันนี้ก็ ๗ ปีกว่าแล้ว ผมผ่านอะไรมามาก แต่ใครบางคนมักคิดว่าผมไม่ได้รู้จริง หรือไม่เคยผ่านประสบการณ์จริง แล้วพยายามยกตัวเองเป็นครูสอนผม (ผมมีครูแล้ว และเลือกครูด้วย ไม่ใช่เป็นศิษย์ไม่มีครู หรือเอาใครก็ได้มาเป็นครูครับ) คนพวกนั้นก็จะทำตัวเหมือนเก่งมากแล้วพยายามมาสอนผม อย่างหนึ่งก็ึคือ ชอบมาสอนผมเรื่อง "ติดนิมิต" บ้าง, "เรื่องเข้าทรง" บ้าง ผมขอบอกเลยว่าผมคือคนยุคใหม่ ไม่ชอบการเข้าทรง และไม่ได้หลงอะไรแบบนั้น แต่สวรรค์จัดสรรให้ไปเรียนรู้ ก็เท่านั้นเอง ผมเคยรับขันธ์ แต่ทั้งชีวิตนี้ ผมไม่เคยเข้าทรงอะไรเลยครับ ไม่ได้นิยม และไม่ได้ต่อต้าน เรื่องของเขา กรรมของเขา ความเชื่อของเขาครับ
ผมขออนุญาติเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ "นิมิตหลอน" ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังเป็นวิทยาทาน เพื่อให้ทราบว่าผมเคยมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว กล่าวคือ ในครั้งที่ฝึกอย่างหนักในที่ทำงาน นั่นแหละ เรื่องมันก็เกิดในที่ทำงานนั้นเลย (ผมฝึกสติปัฏฐานตามจับอารมณ์โกรธตลอดเวลา ดังนั้น ขณะทำงานผมก็ทำสติปัฏฐานไปด้วยครับ) กล่าวคือ วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังประชุมและมีท่านอื่นๆ นั่งร่วมอยู่ในวงประชุมนั้นเอง ก็เกิดความรู้สึกเหมือน "ง่วงมากๆ" แทบจะหลับฟุปลงไปเลย ผมพยายามฝืนไม่ให้หลับในที่ประชุมต่อหน้าคนอื่น แล้วผมก็รู้ึสึุกวูบภายในเหมือน "หลับใน" ทว่า่ คุณคิดว่าหลับจริงไหม? ในเมื่อผมยังมีสติรู้และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ กล่าวคือ ผมเห็นภาพเบื้องหน้าผม (พื้นห้อง เพราะผมก้มหน้าลง) มันเหมือนเฟลมแต่ละเฟลมในฟิล์มฉายหนัง มันเหมือนค่อยๆ แสดงให้เราเห็นทีละเฟลม แต่ขอบอกว่ามันละเอียดยิบๆๆๆ ยิ่งกว่าเฟลมในฟิล์มฉายหนังมาก ผมเห็นตั้งแต่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ก่อตัว แล้วมันก็คล้ายๆ หน้าจอทีวีที่สัญญาณไม่ชัด มันมีจุดดำๆ ด่างๆ รบกวนภาพอยู่ ในใจผมก็คิดว่าเป็น "มด" หรือเปล่า ทันใดนั้น "มันก็กลายเป็นมดฝูงหนึ่ง" ทันทีครับ (ทันทีที่คิดเลย) ต่อมา จุดดำๆ ด่างๆ มันก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก (เฟลมต่อๆ มา) ผมก็เลยสงสัยว่ามันเป็น "หนอนหรือเปล่า?" เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ? มันกลายเป็น "หนอนทันที" อีกเช่นกัน คราวนี้ ผมเหมือนถูกผีมดผีหนอน หลอกเอากลางวันแสกๆ ทั้งๆ ที่ตายังไม่หลับนี่ละ (ไม่ไ่ด้นั่งสมาธิหลับตาแล้วเห็นภาพนิมิตนะครับ และไม่ได้นึดคิดเป็นมโนภาพอะไรทั้งนั้น มันเห็นจะๆ กะตาที่เปิดอยู่นี่แหละ) ผมก็ได้สติ สะดุ้งตื่น เหมือนคนถูกผีหลอกน่ะครับ แล้วภาพมดและหนอนทั้งหมดก็หายไป กลายเป็นพื้นห้องธรรมดา แต่ผมเก็บอาการภายนอกได้ดี ไม่มีใครในที่ประชุมสังเกตุเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมได้ และอีกอย่างหนึ่ง ช่วงที่ผมวูบไปนั้น ผมรู้สึกเหมือนผ่านเวลาเนิ่นนานเป็นพันปีเลยทีเดียว ทว่า ในความเป็นจริง เรายังคุยกันในที่ประชุม "เรื่องเดิมยังไม่จบเลยครับ" !!! นี่แหละ ผมเคยโดนมาแล้ว "นิมิตหลอน นิมิตหลอก" ไม่ใช่ไม่เคย โดน ทั้งๆ ที่ตาเปิดอยู่นี่ละ ไม่ได้หลับตานึกเอา จบ!
ผมขออนุญาติเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ "นิมิตหลอน" ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังเป็นวิทยาทาน เพื่อให้ทราบว่าผมเคยมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว กล่าวคือ ในครั้งที่ฝึกอย่างหนักในที่ทำงาน นั่นแหละ เรื่องมันก็เกิดในที่ทำงานนั้นเลย (ผมฝึกสติปัฏฐานตามจับอารมณ์โกรธตลอดเวลา ดังนั้น ขณะทำงานผมก็ทำสติปัฏฐานไปด้วยครับ) กล่าวคือ วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังประชุมและมีท่านอื่นๆ นั่งร่วมอยู่ในวงประชุมนั้นเอง ก็เกิดความรู้สึกเหมือน "ง่วงมากๆ" แทบจะหลับฟุปลงไปเลย ผมพยายามฝืนไม่ให้หลับในที่ประชุมต่อหน้าคนอื่น แล้วผมก็รู้ึสึุกวูบภายในเหมือน "หลับใน" ทว่า่ คุณคิดว่าหลับจริงไหม? ในเมื่อผมยังมีสติรู้และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ กล่าวคือ ผมเห็นภาพเบื้องหน้าผม (พื้นห้อง เพราะผมก้มหน้าลง) มันเหมือนเฟลมแต่ละเฟลมในฟิล์มฉายหนัง มันเหมือนค่อยๆ แสดงให้เราเห็นทีละเฟลม แต่ขอบอกว่ามันละเอียดยิบๆๆๆ ยิ่งกว่าเฟลมในฟิล์มฉายหนังมาก ผมเห็นตั้งแต่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ก่อตัว แล้วมันก็คล้ายๆ หน้าจอทีวีที่สัญญาณไม่ชัด มันมีจุดดำๆ ด่างๆ รบกวนภาพอยู่ ในใจผมก็คิดว่าเป็น "มด" หรือเปล่า ทันใดนั้น "มันก็กลายเป็นมดฝูงหนึ่ง" ทันทีครับ (ทันทีที่คิดเลย) ต่อมา จุดดำๆ ด่างๆ มันก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก (เฟลมต่อๆ มา) ผมก็เลยสงสัยว่ามันเป็น "หนอนหรือเปล่า?" เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ? มันกลายเป็น "หนอนทันที" อีกเช่นกัน คราวนี้ ผมเหมือนถูกผีมดผีหนอน หลอกเอากลางวันแสกๆ ทั้งๆ ที่ตายังไม่หลับนี่ละ (ไม่ไ่ด้นั่งสมาธิหลับตาแล้วเห็นภาพนิมิตนะครับ และไม่ได้นึดคิดเป็นมโนภาพอะไรทั้งนั้น มันเห็นจะๆ กะตาที่เปิดอยู่นี่แหละ) ผมก็ได้สติ สะดุ้งตื่น เหมือนคนถูกผีหลอกน่ะครับ แล้วภาพมดและหนอนทั้งหมดก็หายไป กลายเป็นพื้นห้องธรรมดา แต่ผมเก็บอาการภายนอกได้ดี ไม่มีใครในที่ประชุมสังเกตุเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมได้ และอีกอย่างหนึ่ง ช่วงที่ผมวูบไปนั้น ผมรู้สึกเหมือนผ่านเวลาเนิ่นนานเป็นพันปีเลยทีเดียว ทว่า ในความเป็นจริง เรายังคุยกันในที่ประชุม "เรื่องเดิมยังไม่จบเลยครับ" !!! นี่แหละ ผมเคยโดนมาแล้ว "นิมิตหลอน นิมิตหลอก" ไม่ใช่ไม่เคย โดน ทั้งๆ ที่ตาเปิดอยู่นี่ละ ไม่ได้หลับตานึกเอา จบ!
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment