เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ผมเป็นฆราวาสแล้วปฏิบัติธรรมแบบพราหมณ์ฤษี ช่วงนั้น ผมยังทำงานอยู่ยังไม่ได้ลาออกจากงาน ผมจึงอาศัยเวลาว่าง ๓ วันไปปฏิบัิติธรรม ในวันนั้น พี่คนหนึ่งอาสาไปส่ง จู่ๆ ก็ืำทำกุญแจรถหายไปเฉยเลย หาอย่างไรก็ไม่เจอ แล้วต้องกลับไปหากุญแจรถที่บ้าน ต่อมา ขับรถไปจู่ๆ ก็เกิดกันชนด้านหน้าร่วงลงมาติดใต้ท้องรถเสียเฉยๆ อย่างนั้น (ลางไม่ดีสองครั้ง) แต่ว่าในเมื่อเราตั้งใจแล้วก็ไปครับ ไปให้ถึงและทำให้ได้ ผมก็เลยอยู่ปฏิบัติที่นั่น คนเดียว ตกกลางคืน ผมก็ไม่ได้รีบนอน กุฏิแต่ละกุฏิจะห่างกันมาก และมีต้นไม้โดยรอบ จึงคล้ายว่าเราอยู่คนเดียวเหมือนกัน (เป็นวัดป่าน่ะครับ) หลังจากช่วงกลางวันฝึกกรรมฐานแนวสติปัฏฐานมาบ้างแล้ว กลางคืน ผมก็เลยจุดเทียนขึ้น ลองเพ่งเทียนดูึีัครับ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร ทำไปอย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แล้วก็เลยหลับไปพักหนึ่ง ตื่นขึ้นมาทำใหม่ ทีนี้ นึกครึ้มๆ อะไรไม่รู้ ก็เลยนึกให้ไฟมันลุกมากขึ้นๆ มันก็ลุกมากขึ้นๆ พอนึกให้มันอ่อนแรงลง มันก็อ่อนลงๆ ได้ ตามนั้น สักชั่วแว้บหนึ่งครับ จากนั้น จิตเปลี่ยนไป อยากลองทำให้มากขึ้น อยากให้มันชัดขึ้นว่าเมื่อกี้มันจริงหรือเปล่า? หรือบังเอิญกันแน่ (กุฏิปิดรอบด้าน ไม่มีลมเข้ามานะครับ) แล้วมันก็ทำไม่ได้ครับ เลยเลิก
ช่วงเช้า ตอนผมกวาดลานวัด อยู่ๆ เจ้าอาวาสก็มาทางด้านหลังเงียบๆ แล้วผมก็จู่ๆ หยุดกวาดแล้วหันไปพอดี ไม่รู้บังเอิญหรือว่าเพราะอะไร สงสัยท่านจะมาทดสอบดูว่าเรามีสติไหม เวลากวาดวัด ไม่ใช่ว่าเอาแต่กวาดๆ โดยไม่ทัน มีสติรู้ตัวว่ามีคนมาข้างหลัง จนกวาดไปโดนเขาเข้า อะไรแบบนั้นหรือเปล่า? ทว่า ก็ผ่านไปได้ด้วยดีัครับ ผมก็สนทนากับท่านเล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ปฏิบัติของเราต่อไป ครบสามวัน ผมก็กลับ ไปทำงานต่อครับ ช่วงนั้น ผมยังทำงานอยู่ ยังไม่ได้ลาออกจากงานอย่างเต็มตัว แต่ก็เริ่มหันมาเข้าวัด ปฏิบัติธรรมบ้างแล้ว และเริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองบ้าง บางประการแล้วครับ ทั้งในด้านของสิ่งเหนือธรรมชาติเล็กน้อย ไม่มากพอที่จะไปโชว์ใคร แต่ทำให้ตัวเราเอ๊ะใจขึ้นมาบ้างนิดหน่อยว่านี่ มันมีอะไรที่เราอธิบายด้วยเหตุผลทั่วไป ไม่ได้หรือเปล่า? หรือการปฏิบัติที่ได้ที่ใจเรา พัฒนาขึ้น อันนี้ก็พิสูจน์ได้อยู่ ทำให้รู้สึกว่าการปฏิบัติธรรมมันได้ผลจริง พัฒนาตัวเราจริง ไม่ต้่องรอชาติต่อไป (ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องธรรมะ เรื่องศาสนา เป็นเรื่องของชาติหน้า รอไปรับผลบุญชาติหน้า) ก็เลยปฏิบัติยิ่งขึ้นครับ
ช่วงเช้า ตอนผมกวาดลานวัด อยู่ๆ เจ้าอาวาสก็มาทางด้านหลังเงียบๆ แล้วผมก็จู่ๆ หยุดกวาดแล้วหันไปพอดี ไม่รู้บังเอิญหรือว่าเพราะอะไร สงสัยท่านจะมาทดสอบดูว่าเรามีสติไหม เวลากวาดวัด ไม่ใช่ว่าเอาแต่กวาดๆ โดยไม่ทัน มีสติรู้ตัวว่ามีคนมาข้างหลัง จนกวาดไปโดนเขาเข้า อะไรแบบนั้นหรือเปล่า? ทว่า ก็ผ่านไปได้ด้วยดีัครับ ผมก็สนทนากับท่านเล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ปฏิบัติของเราต่อไป ครบสามวัน ผมก็กลับ ไปทำงานต่อครับ ช่วงนั้น ผมยังทำงานอยู่ ยังไม่ได้ลาออกจากงานอย่างเต็มตัว แต่ก็เริ่มหันมาเข้าวัด ปฏิบัติธรรมบ้างแล้ว และเริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองบ้าง บางประการแล้วครับ ทั้งในด้านของสิ่งเหนือธรรมชาติเล็กน้อย ไม่มากพอที่จะไปโชว์ใคร แต่ทำให้ตัวเราเอ๊ะใจขึ้นมาบ้างนิดหน่อยว่านี่ มันมีอะไรที่เราอธิบายด้วยเหตุผลทั่วไป ไม่ได้หรือเปล่า? หรือการปฏิบัติที่ได้ที่ใจเรา พัฒนาขึ้น อันนี้ก็พิสูจน์ได้อยู่ ทำให้รู้สึกว่าการปฏิบัติธรรมมันได้ผลจริง พัฒนาตัวเราจริง ไม่ต้่องรอชาติต่อไป (ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องธรรมะ เรื่องศาสนา เป็นเรื่องของชาติหน้า รอไปรับผลบุญชาติหน้า) ก็เลยปฏิบัติยิ่งขึ้นครับ