ในอดีตชาตินั้นผมเป็นคนที่สูญเสียทุกอย่าง (เรื่องราวก่อนหน้านี้ ไม่มี มองไม่เห็นครับ) จนมีสภาพคล้ายขอทาน ส่วน "อาจารย์คนปัจจุบัน" ของผม เป็นฤษีที่เก่งมากแต่ไม่ยอมรับใครง่ายๆ และไม่ยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ในช่วงที่ผมยากลำบากนั้นเอง ฤษีผู้เป็นอาจารย์ ก็ได้ให้การช่วยเหลือ ผมจึงได้อยู่อาศัยกับท่าน ไม่คิดที่จะเอาวิชาความรู้อะไร เพียงได้อยู่กินไปวันๆ เท่านั้น จึงได้ปรนนิบัติรับใช้ฤษีนั้นแทนคุณ ต่อมา ฤษีไม่มีผู้สืบทอดวิชา, ไม่มีลูก วันหนึ่งก็ให้ผมบวชเป็นฤษี (ในชาติปัจจุบันผมซึ่งกำลังลำบากแล้วเกือบเป็นขอทาน ก็มีอาจารย์ท่านนี้มาบอกให้บวชพระครับ) ซึ่งนับว่าเป็นการผิดจารีต เพราะผมไม่ใช่คนที่เกิดมาในตระกูลพราหมณ์ นั่นเอง แต่ก็ทำตามอาจารย์บอก เพราะไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้รู้อะไรมาก ต่อมา เมื่อเล่าเรียนวิชาสำเร็จ ไม่นานฤษีก็ตายลงผมจึงได้นำศพท่านไปฝัง ต่อมา ก็มีคนมาขอเรียนวิชากับผมๆ ก็คิดว่าให้เขาไป ไม่ได้หวง เพราะตอนได้มาอาจารย์ก็ให้มาฟรีๆ ทว่า ผลไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่มาเรียนด้วยกลับคิดร้าย แล้วเผากุฏิฤษีนั้นเพื่อขู่เอาวิชาบางอย่าง ผมก็หนีไปทั้งโดนธนูเสียบทะลุรักแร้จากขวาไปซ้าย ใกล้ตายแต่ฝืนใจทนไว้อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อ "สามเณร" รูปนี้ ในอดีตชาติ ได้เข้ามาพบก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้ ทั้งบอกให้ปราบศิษย์คนนั้นด้วย ทว่า ไม่ทันที่สามเณรจะได้ปราบศิษย์ผู้นั้น ก็ถูกเสือกัดตายไปเสียก่อน ผลบุญบารมีที่ได้บำเพ็ญร่วมกันนั้นคงทำให้ผมและสามเณร ได้ไปเกิดเป็นพ่อลูกกันในสวรรค์พรหมโลก (ซึ่งเป็นอดีตชาติไหนไม่ทราบนานมาแล้วครับ) ผมก็ได้แ่ต่คิดแต่ไม่ไ่ด้บอกกับสามเณรรูปนั้น เอาเป็นว่านี่คือ สิ่งที่ผมได้มาจากการที่สามเณรใช้การเพ่งดูดวงแก้วประจำกายแล้วก็เห็นอดีตชาติบางชาติ มาเ่ล่าให้ัฟังครับ ซึ่งผมก็เทียบกับชาติปัจจุบันด้วยว่ามีส่วนสอดคล้องกันหรือไม่ ผลก็ออกมาว่าสอดคล้องกันหลายประการทีเดียว (แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องปัจจุบันให้สามเณรทราบนะครับ) จบ!
อดีตชาติที่เป็นฤษี
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงที่ผมบวชเป็นเณรและสามเณรคู่หูได้ตาทิพย์, หูทิพย์แล้ว ต่อมาก็เริ่มเพ่งดูภายในให้ผมได้ เขาจึงทดสอบเพ่งเข้ามาดูในกายของผู้อื่น โดยเพ่งดูผมเป็นคนแรก เมื่อเขาเห็นกายทิพย์หนึ่งของผมเป็นฤษี จึงได้เพ่งสู่กลางกายก็เห็น "ดวงแก้วประจำักายทิพย์นั้นๆ" เมื่อเพ่งเข้าไปในดวงแก้ว ก็เห็นเรื่องราวบันทึกอดีตชาตินั้น สามเณรได้เล่าให้ฟังโดยตลอดว่าขณะเพ่งนั้น ได้เห็นอะไรบ้าง ดังนี้
ในอดีตชาตินั้นผมเป็นคนที่สูญเสียทุกอย่าง (เรื่องราวก่อนหน้านี้ ไม่มี มองไม่เห็นครับ) จนมีสภาพคล้ายขอทาน ส่วน "อาจารย์คนปัจจุบัน" ของผม เป็นฤษีที่เก่งมากแต่ไม่ยอมรับใครง่ายๆ และไม่ยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ในช่วงที่ผมยากลำบากนั้นเอง ฤษีผู้เป็นอาจารย์ ก็ได้ให้การช่วยเหลือ ผมจึงได้อยู่อาศัยกับท่าน ไม่คิดที่จะเอาวิชาความรู้อะไร เพียงได้อยู่กินไปวันๆ เท่านั้น จึงได้ปรนนิบัติรับใช้ฤษีนั้นแทนคุณ ต่อมา ฤษีไม่มีผู้สืบทอดวิชา, ไม่มีลูก วันหนึ่งก็ให้ผมบวชเป็นฤษี (ในชาติปัจจุบันผมซึ่งกำลังลำบากแล้วเกือบเป็นขอทาน ก็มีอาจารย์ท่านนี้มาบอกให้บวชพระครับ) ซึ่งนับว่าเป็นการผิดจารีต เพราะผมไม่ใช่คนที่เกิดมาในตระกูลพราหมณ์ นั่นเอง แต่ก็ทำตามอาจารย์บอก เพราะไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้รู้อะไรมาก ต่อมา เมื่อเล่าเรียนวิชาสำเร็จ ไม่นานฤษีก็ตายลงผมจึงได้นำศพท่านไปฝัง ต่อมา ก็มีคนมาขอเรียนวิชากับผมๆ ก็คิดว่าให้เขาไป ไม่ได้หวง เพราะตอนได้มาอาจารย์ก็ให้มาฟรีๆ ทว่า ผลไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่มาเรียนด้วยกลับคิดร้าย แล้วเผากุฏิฤษีนั้นเพื่อขู่เอาวิชาบางอย่าง ผมก็หนีไปทั้งโดนธนูเสียบทะลุรักแร้จากขวาไปซ้าย ใกล้ตายแต่ฝืนใจทนไว้อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อ "สามเณร" รูปนี้ ในอดีตชาติ ได้เข้ามาพบก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้ ทั้งบอกให้ปราบศิษย์คนนั้นด้วย ทว่า ไม่ทันที่สามเณรจะได้ปราบศิษย์ผู้นั้น ก็ถูกเสือกัดตายไปเสียก่อน ผลบุญบารมีที่ได้บำเพ็ญร่วมกันนั้นคงทำให้ผมและสามเณร ได้ไปเกิดเป็นพ่อลูกกันในสวรรค์พรหมโลก (ซึ่งเป็นอดีตชาติไหนไม่ทราบนานมาแล้วครับ) ผมก็ได้แ่ต่คิดแต่ไม่ไ่ด้บอกกับสามเณรรูปนั้น เอาเป็นว่านี่คือ สิ่งที่ผมได้มาจากการที่สามเณรใช้การเพ่งดูดวงแก้วประจำกายแล้วก็เห็นอดีตชาติบางชาติ มาเ่ล่าให้ัฟังครับ ซึ่งผมก็เทียบกับชาติปัจจุบันด้วยว่ามีส่วนสอดคล้องกันหรือไม่ ผลก็ออกมาว่าสอดคล้องกันหลายประการทีเดียว (แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องปัจจุบันให้สามเณรทราบนะครับ) จบ!
Artikel อดีตชาติที่เป็นฤษี ini dipublish oleh Unknown pada hari 12/21/12. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan อดีตชาติที่เป็นฤษี
ในอดีตชาตินั้นผมเป็นคนที่สูญเสียทุกอย่าง (เรื่องราวก่อนหน้านี้ ไม่มี มองไม่เห็นครับ) จนมีสภาพคล้ายขอทาน ส่วน "อาจารย์คนปัจจุบัน" ของผม เป็นฤษีที่เก่งมากแต่ไม่ยอมรับใครง่ายๆ และไม่ยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ในช่วงที่ผมยากลำบากนั้นเอง ฤษีผู้เป็นอาจารย์ ก็ได้ให้การช่วยเหลือ ผมจึงได้อยู่อาศัยกับท่าน ไม่คิดที่จะเอาวิชาความรู้อะไร เพียงได้อยู่กินไปวันๆ เท่านั้น จึงได้ปรนนิบัติรับใช้ฤษีนั้นแทนคุณ ต่อมา ฤษีไม่มีผู้สืบทอดวิชา, ไม่มีลูก วันหนึ่งก็ให้ผมบวชเป็นฤษี (ในชาติปัจจุบันผมซึ่งกำลังลำบากแล้วเกือบเป็นขอทาน ก็มีอาจารย์ท่านนี้มาบอกให้บวชพระครับ) ซึ่งนับว่าเป็นการผิดจารีต เพราะผมไม่ใช่คนที่เกิดมาในตระกูลพราหมณ์ นั่นเอง แต่ก็ทำตามอาจารย์บอก เพราะไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้รู้อะไรมาก ต่อมา เมื่อเล่าเรียนวิชาสำเร็จ ไม่นานฤษีก็ตายลงผมจึงได้นำศพท่านไปฝัง ต่อมา ก็มีคนมาขอเรียนวิชากับผมๆ ก็คิดว่าให้เขาไป ไม่ได้หวง เพราะตอนได้มาอาจารย์ก็ให้มาฟรีๆ ทว่า ผลไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่มาเรียนด้วยกลับคิดร้าย แล้วเผากุฏิฤษีนั้นเพื่อขู่เอาวิชาบางอย่าง ผมก็หนีไปทั้งโดนธนูเสียบทะลุรักแร้จากขวาไปซ้าย ใกล้ตายแต่ฝืนใจทนไว้อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อ "สามเณร" รูปนี้ ในอดีตชาติ ได้เข้ามาพบก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้ ทั้งบอกให้ปราบศิษย์คนนั้นด้วย ทว่า ไม่ทันที่สามเณรจะได้ปราบศิษย์ผู้นั้น ก็ถูกเสือกัดตายไปเสียก่อน ผลบุญบารมีที่ได้บำเพ็ญร่วมกันนั้นคงทำให้ผมและสามเณร ได้ไปเกิดเป็นพ่อลูกกันในสวรรค์พรหมโลก (ซึ่งเป็นอดีตชาติไหนไม่ทราบนานมาแล้วครับ) ผมก็ได้แ่ต่คิดแต่ไม่ไ่ด้บอกกับสามเณรรูปนั้น เอาเป็นว่านี่คือ สิ่งที่ผมได้มาจากการที่สามเณรใช้การเพ่งดูดวงแก้วประจำกายแล้วก็เห็นอดีตชาติบางชาติ มาเ่ล่าให้ัฟังครับ ซึ่งผมก็เทียบกับชาติปัจจุบันด้วยว่ามีส่วนสอดคล้องกันหรือไม่ ผลก็ออกมาว่าสอดคล้องกันหลายประการทีเดียว (แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องปัจจุบันให้สามเณรทราบนะครับ) จบ!
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment