และแล้วผมและสามเณรคู่หู ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าด้วยตัวเราเอง โดยตาเปล่า ไม่ต้องมีตาทิพย์ก็เห็นได้ โดยวันนั้น ผมกำลังจะออกบิณฑบาตรในช่วงเวลาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนั้น ผมก็ออกมารอคณะฯ ก่อนที่จะแยกแยะไปตามแต่ละเส้นทางบิณฑบาตรนั้นเองพระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นทางเดิม ในขณะที่ฟากฟ้าฝั่งตะวันตกก็มี "พระอาทิตย์สีขาวบริสุทธิ์" ขึ้นเช่นกัน เป็นสิ่งที่คล้ายพระจันทร์แต่ไม่ใช่ เพราะไม่มีรูปลวดลายกระต่าย อีกทั้งยังดวงโตมากๆ และลอยลงลับไปเร็วกว่าดวงจันทร์ที่ผมเคยเห็นนั้น มาก ดูแล้วไม่น่าจะใช่ดวงจันทร์จริงๆ แต่มีลักษณะคล้ายดวงจันทร์เพราะสีออกขาวบริสุทธิ์นวลตา เวลานั้นผมจึงบอกให้สามเณรมาดู และมีชายอีกคนหนึ่งที่ผ่านมาพอดี เขาก็เข้ามาดูด้วย (เป็นพยานในการรู้เห็น) ภายหลังเขาก็ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังว่าเห็นสิ่งนี้ใหญ่เท่าๆ กระด้ง แต่ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่มีเรื่องตัวเลขหวยอะไรประมาณนั้นมังครับ ผมก็เลยขอให้สามเณรสื่อสารทางทิพย์ ถามดูว่านี่คืออะไร? ก็ทราบว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นเป็น "ปริศนาธรรม" ผมก็ยังตีไม่ออก ก็เลยให้สามเณรช่วยลองไปถาม "พระกษิติครรภ์" ที่อยู่เบื้องล่าง ท่านก็กลับบอกว่า "อย่างที่ท่านคิดนั่นแหละ" (อ้าว ยังไง? งง) คือ ผมกำลังสงสัยว่าปริศนาธรรมนี้ หมายถึง สิ่งสองสิ่ง ๑. พระอาทิตย์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางโลก ๒. พระจันทร์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางธรรม อะไรประมาณนั้น ขึ้นในทางตรงกันข้าม ก็เหมือนทางเดินสองทางที่อยู่ตรงข้ามกัน ให้เลือกเอาว่าจะเดินทางไหน อะไรแบบนั้น ทว่า ผมก็ไม่รู้ว่าอย่างที่ผมคิดหรือสงสัยนี้ มันถูกหรือเปล่า ก็เลยยังไม่ได้สรุปอะไร ก็เลยจบลงเท่านี้่ครับ จบ!
พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ผมบวชเป็นสามเณรและมีสามเณรคู่หูคอยช่วยเหลืออยู่ หลังจากที่หลวงปู่เทพโลกอุดรมาโปรดและจากไปแล้ว เราก็ยังบำเพ็ญธรรมต่อไป แน่วแน่ ไม่ได้คิดที่จะรีบนิพพาน ทั้งนี้ ผมเคยได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่มั่น ที่ได้รับการโปรดจากพระพุทธเจ้าโดนเสด็จทางให้เห็นทางมิติทิพย์ และอาจารย์ท่านหนึ่งของผม ก็เคยได้รับการโปรดจากพระพุทธเจ้าเช่นกัน แต่ท่านไม่ได้เห็นด้วยตาทิพย์ ท่านท้าทายพระพุทธเจ้าเลยว่า "ถ้าท่านมีจริง ให้มาโปรด เพราะวันนั้น ท่านพร้อมแล้ว" แล้วท่านก็เข้าสมาธิ ในวันนั้นเองท่านก็ได้สิ่งที่ท่านสงสัยและสำเร็จธรรมในที่สุด เหมือนกับพระพุทธเจ้ายังทรงทำกิจอยู่และโปรดสัตว์ได้ ไม่เกี่ยวว่าท่านจะดับขันธปรินิพพานไปแล้ว? และไม่ใช่ว่าท่านดับขันธปรินิพพานแล้วจะหายสูญไปหรือไม่สามารถทำกิจได้ ก็หาไม่ เรื่องราวการโปรดสัตว์ของพระพุทธเจ้า ก็ยังมีเล่ากันต่อมาหลังจากท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้วอีกมากมาย ในขณะที่ใครหลายคนมักคิดว่า "นิพพานนั้น หมายถึง หายสูญ, ดับสิ้นไป, ไม่มีอะไรอีก, ว่างหมด" ก็เลยทึกทักเอาว่าพระพุทธเจ้าที่ดับขันธปรินิพพานแล้วนั้น จะต้องดับสูญไป, สิ้นไป, ว่างไป ฯลฯ ไม่มีอีก และไม่สามารถมาโปรดสัตว์ได้อีก อะไรแบบนั้น ซึ่งผมมองว่าเป็นความเข้าใจผิด ตั้งแต่ต้นในเรื่องนิพพาน จนทำให้เข้าใจผิดในสภาวะของผู้ที่นิพพาน
และแล้วผมและสามเณรคู่หู ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าด้วยตัวเราเอง โดยตาเปล่า ไม่ต้องมีตาทิพย์ก็เห็นได้ โดยวันนั้น ผมกำลังจะออกบิณฑบาตรในช่วงเวลาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนั้น ผมก็ออกมารอคณะฯ ก่อนที่จะแยกแยะไปตามแต่ละเส้นทางบิณฑบาตรนั้นเองพระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นทางเดิม ในขณะที่ฟากฟ้าฝั่งตะวันตกก็มี "พระอาทิตย์สีขาวบริสุทธิ์" ขึ้นเช่นกัน เป็นสิ่งที่คล้ายพระจันทร์แต่ไม่ใช่ เพราะไม่มีรูปลวดลายกระต่าย อีกทั้งยังดวงโตมากๆ และลอยลงลับไปเร็วกว่าดวงจันทร์ที่ผมเคยเห็นนั้น มาก ดูแล้วไม่น่าจะใช่ดวงจันทร์จริงๆ แต่มีลักษณะคล้ายดวงจันทร์เพราะสีออกขาวบริสุทธิ์นวลตา เวลานั้นผมจึงบอกให้สามเณรมาดู และมีชายอีกคนหนึ่งที่ผ่านมาพอดี เขาก็เข้ามาดูด้วย (เป็นพยานในการรู้เห็น) ภายหลังเขาก็ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังว่าเห็นสิ่งนี้ใหญ่เท่าๆ กระด้ง แต่ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่มีเรื่องตัวเลขหวยอะไรประมาณนั้นมังครับ ผมก็เลยขอให้สามเณรสื่อสารทางทิพย์ ถามดูว่านี่คืออะไร? ก็ทราบว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นเป็น "ปริศนาธรรม" ผมก็ยังตีไม่ออก ก็เลยให้สามเณรช่วยลองไปถาม "พระกษิติครรภ์" ที่อยู่เบื้องล่าง ท่านก็กลับบอกว่า "อย่างที่ท่านคิดนั่นแหละ" (อ้าว ยังไง? งง) คือ ผมกำลังสงสัยว่าปริศนาธรรมนี้ หมายถึง สิ่งสองสิ่ง ๑. พระอาทิตย์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางโลก ๒. พระจันทร์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางธรรม อะไรประมาณนั้น ขึ้นในทางตรงกันข้าม ก็เหมือนทางเดินสองทางที่อยู่ตรงข้ามกัน ให้เลือกเอาว่าจะเดินทางไหน อะไรแบบนั้น ทว่า ผมก็ไม่รู้ว่าอย่างที่ผมคิดหรือสงสัยนี้ มันถูกหรือเปล่า ก็เลยยังไม่ได้สรุปอะไร ก็เลยจบลงเท่านี้่ครับ จบ!
Artikel พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ ini dipublish oleh Unknown pada hari 12/30/12. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์
และแล้วผมและสามเณรคู่หู ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าด้วยตัวเราเอง โดยตาเปล่า ไม่ต้องมีตาทิพย์ก็เห็นได้ โดยวันนั้น ผมกำลังจะออกบิณฑบาตรในช่วงเวลาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนั้น ผมก็ออกมารอคณะฯ ก่อนที่จะแยกแยะไปตามแต่ละเส้นทางบิณฑบาตรนั้นเองพระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นทางเดิม ในขณะที่ฟากฟ้าฝั่งตะวันตกก็มี "พระอาทิตย์สีขาวบริสุทธิ์" ขึ้นเช่นกัน เป็นสิ่งที่คล้ายพระจันทร์แต่ไม่ใช่ เพราะไม่มีรูปลวดลายกระต่าย อีกทั้งยังดวงโตมากๆ และลอยลงลับไปเร็วกว่าดวงจันทร์ที่ผมเคยเห็นนั้น มาก ดูแล้วไม่น่าจะใช่ดวงจันทร์จริงๆ แต่มีลักษณะคล้ายดวงจันทร์เพราะสีออกขาวบริสุทธิ์นวลตา เวลานั้นผมจึงบอกให้สามเณรมาดู และมีชายอีกคนหนึ่งที่ผ่านมาพอดี เขาก็เข้ามาดูด้วย (เป็นพยานในการรู้เห็น) ภายหลังเขาก็ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังว่าเห็นสิ่งนี้ใหญ่เท่าๆ กระด้ง แต่ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่มีเรื่องตัวเลขหวยอะไรประมาณนั้นมังครับ ผมก็เลยขอให้สามเณรสื่อสารทางทิพย์ ถามดูว่านี่คืออะไร? ก็ทราบว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นเป็น "ปริศนาธรรม" ผมก็ยังตีไม่ออก ก็เลยให้สามเณรช่วยลองไปถาม "พระกษิติครรภ์" ที่อยู่เบื้องล่าง ท่านก็กลับบอกว่า "อย่างที่ท่านคิดนั่นแหละ" (อ้าว ยังไง? งง) คือ ผมกำลังสงสัยว่าปริศนาธรรมนี้ หมายถึง สิ่งสองสิ่ง ๑. พระอาทิตย์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางโลก ๒. พระจันทร์ ก็อุปมาเหมือนผู้นำทางธรรม อะไรประมาณนั้น ขึ้นในทางตรงกันข้าม ก็เหมือนทางเดินสองทางที่อยู่ตรงข้ามกัน ให้เลือกเอาว่าจะเดินทางไหน อะไรแบบนั้น ทว่า ผมก็ไม่รู้ว่าอย่างที่ผมคิดหรือสงสัยนี้ มันถูกหรือเปล่า ก็เลยยังไม่ได้สรุปอะไร ก็เลยจบลงเท่านี้่ครับ จบ!
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment