และแล้วก็ฝึกก็เริ่มขึ้นจากการสั่งสมพลังภายในของผมเป็นพลังภายใน "สีเขียว" มีคุณสมบัติในการรักษาและคู่หูมีพลังภายใน "สีแดง" มีคุณสมบัติในการต่อสู้ ทำลายล้างศัตรู เทพกุมารสองตน ประสานร่างผมและคู่หู ตนละร่าง ฝึกตามเราไป จนสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ทดลองใช้มัน ตนที่มีพลังสีแดง ยิงแสงสีแดงออกมาจากตาที่สามได้ ทำลายศัตรูได้ ตนที่มีพลังสีเขียว ยิงแสงสีเขียวออกจากตาที่สามได้ ใช้รักษาศัตรูได้ แต่เมื่อเทพกุมารประสานในร่างของเรา เราจะมีพลังเช่นนั้น ถ้าเทพกุมารจรออกจากร่างของเรา เราก็จะหมดฤทธิ์ไม่มีพลังเช่นนั้่น เรียกว่า เราไ่ม่ได้ฝึกฤทธิ์ให้ร่างสังขารตัวเอง แต่ฝึกให้จิตวิญญาณเทพกุมารทั้งสองนั้น ตาที่สามของผมจึงยังบอดเหมือนเดิม และตาที่สามของคู่หู ก็มีสภาพมองเห็นโลกทิพย์ตามเดิม นี่ก็คือ "ข้อน่าสังเกตุ" อีกประการหนึ่งของ "ตาที่สาม" ว่าหากตาที่สามนั้น อยู่แต่ในส่วนของจิตวิญญาณแล้ว ไม่ได้ประสานเชื่อมกับส่วนสังขารร่างกาย ส่วนของสังขารร่างกายก็จะไม่มีฤทธิ์ มองไม่เห็นในโลกทิพย์ ถ้าจิตวิญญาณดวงที่มีตาที่สาม จรจากร่างสังขารเมื่อไร เราก็จะไม่อาจใช้ฤทธิ์จากตาที่สามได้เลย ว่าแล้วก็ถึงคราวพวกเขาจากไป (เมื่อฝึกเสร็จแล้วจะจากไปเลย) เรื่องเลยจบลงเท่านี้ครับ...
โปรดลูกของเทพสามตา
เรื่องราวการโปรดเทพกุมาร ต่อเนื่องมา หลังจากสองตนแรกผิดพลาดไปแล้ว ผมทำใจระยะหนึ่ง ก็ฮึดสู้ใหม่ กลับมาทำหน้าที่ตามเดิม เทพกุมารก็มาเรียน มาขอฝึกฤทธิ์ด้วย ซึ่งมีหลายคู่มาก แต่ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว ขอลัดคิว เล่าเรื่องของ "ลูกของเทพสามตา" ซึ่งมากับกุมารอีกตน (คู่กัน) ก็แล้วกัน กุมารสองตนนี้ ตนหนึ่ง เราทราบว่าเป็นลูกของเทพสามตา ก็เลยต้องสอน "ตาที่สาม" ให้เขา ไหนๆ ก็จะสอนตาที่สามแล้ว เราเลยต้องสอนแบบทั้งคู่ แต่เป็นพลังตรงกันข้ามกัน อนึ่ง สำหรับ "ตาที่สาม" นี้ ในมนุษย์จะฝึกเพื่อเปิดดู "มิติทิพย์" แต่ในเทวดาเขาก็มองเห็นมิติทิพย์กันอยู่แล้ว เออ นั่นสิแล้วจะมาฝึกตาที่สามทำห่าอะไร ว่ะ? ไม่ช่าย อย่าคิดแบบมนุษย์เช่นนั้น ในเมื่อเทพสามตา ยังมีตาที่สาม ซึ่งไม่ได้ใช้แบบมนุษย์ แ่ต่ใช้ในแบบเทวดาได้ เราก็ต้องหาวิธีสอนลูกเทวดาให้มีตาทิพย์บ้าง จะได้ไม่อายเทวดาเขา ที่เขาอุตส่าห์ส่งลูกหลานมาเรียนสำนักเรา เอ้ย ไม่ใช่ มาเรียนกับเรา ว่าแล้วก็ต้องมานั่งพิจารณาแล้วครับว่า ตาที่สาม ที่เราจะสอนเขานี่ มันจะเป็นอะไร? ก็พิจารณาเห็นว่า "ตาที่สาม" ก็คือ "ทวารทางออกของจักระที่หก" ก็เท่านั้นเอง ทีนี้ ถามว่า มันเป็นทางออกของอะไรละ? ก็ง่ายๆ "พลังภายใน" น่ะสิ มันจะเป็นทางออกของพลังที่มาจากภายใน พุ่งไปสู่ภายนอก เช่น เวลาเพ่งก็ยิงพลังออกไปจากตาที่สาม เหมือน "ไฟบัลลัยกัป" ที่ออกจากตาที่สามของพระศิวะ นั่นไง เอาละ ถ้าอย่างนั้น เราก็เข้าใจแล้วว่าจะสอนลูกเทวดาอย่างไร ให้มีตาที่สาม โดยให้เทพกุมารองค์หนึ่งได้ตาที่สาม "เชิงทำลายล้าง" และอีกองค์หนึ่งได้ตาที่สามเชิงรักษา
และแล้วก็ฝึกก็เริ่มขึ้นจากการสั่งสมพลังภายในของผมเป็นพลังภายใน "สีเขียว" มีคุณสมบัติในการรักษาและคู่หูมีพลังภายใน "สีแดง" มีคุณสมบัติในการต่อสู้ ทำลายล้างศัตรู เทพกุมารสองตน ประสานร่างผมและคู่หู ตนละร่าง ฝึกตามเราไป จนสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ทดลองใช้มัน ตนที่มีพลังสีแดง ยิงแสงสีแดงออกมาจากตาที่สามได้ ทำลายศัตรูได้ ตนที่มีพลังสีเขียว ยิงแสงสีเขียวออกจากตาที่สามได้ ใช้รักษาศัตรูได้ แต่เมื่อเทพกุมารประสานในร่างของเรา เราจะมีพลังเช่นนั้น ถ้าเทพกุมารจรออกจากร่างของเรา เราก็จะหมดฤทธิ์ไม่มีพลังเช่นนั้่น เรียกว่า เราไ่ม่ได้ฝึกฤทธิ์ให้ร่างสังขารตัวเอง แต่ฝึกให้จิตวิญญาณเทพกุมารทั้งสองนั้น ตาที่สามของผมจึงยังบอดเหมือนเดิม และตาที่สามของคู่หู ก็มีสภาพมองเห็นโลกทิพย์ตามเดิม นี่ก็คือ "ข้อน่าสังเกตุ" อีกประการหนึ่งของ "ตาที่สาม" ว่าหากตาที่สามนั้น อยู่แต่ในส่วนของจิตวิญญาณแล้ว ไม่ได้ประสานเชื่อมกับส่วนสังขารร่างกาย ส่วนของสังขารร่างกายก็จะไม่มีฤทธิ์ มองไม่เห็นในโลกทิพย์ ถ้าจิตวิญญาณดวงที่มีตาที่สาม จรจากร่างสังขารเมื่อไร เราก็จะไม่อาจใช้ฤทธิ์จากตาที่สามได้เลย ว่าแล้วก็ถึงคราวพวกเขาจากไป (เมื่อฝึกเสร็จแล้วจะจากไปเลย) เรื่องเลยจบลงเท่านี้ครับ...
Artikel โปรดลูกของเทพสามตา ini dipublish oleh Unknown pada hari 12/4/12. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan โปรดลูกของเทพสามตา
และแล้วก็ฝึกก็เริ่มขึ้นจากการสั่งสมพลังภายในของผมเป็นพลังภายใน "สีเขียว" มีคุณสมบัติในการรักษาและคู่หูมีพลังภายใน "สีแดง" มีคุณสมบัติในการต่อสู้ ทำลายล้างศัตรู เทพกุมารสองตน ประสานร่างผมและคู่หู ตนละร่าง ฝึกตามเราไป จนสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ทดลองใช้มัน ตนที่มีพลังสีแดง ยิงแสงสีแดงออกมาจากตาที่สามได้ ทำลายศัตรูได้ ตนที่มีพลังสีเขียว ยิงแสงสีเขียวออกจากตาที่สามได้ ใช้รักษาศัตรูได้ แต่เมื่อเทพกุมารประสานในร่างของเรา เราจะมีพลังเช่นนั้น ถ้าเทพกุมารจรออกจากร่างของเรา เราก็จะหมดฤทธิ์ไม่มีพลังเช่นนั้่น เรียกว่า เราไ่ม่ได้ฝึกฤทธิ์ให้ร่างสังขารตัวเอง แต่ฝึกให้จิตวิญญาณเทพกุมารทั้งสองนั้น ตาที่สามของผมจึงยังบอดเหมือนเดิม และตาที่สามของคู่หู ก็มีสภาพมองเห็นโลกทิพย์ตามเดิม นี่ก็คือ "ข้อน่าสังเกตุ" อีกประการหนึ่งของ "ตาที่สาม" ว่าหากตาที่สามนั้น อยู่แต่ในส่วนของจิตวิญญาณแล้ว ไม่ได้ประสานเชื่อมกับส่วนสังขารร่างกาย ส่วนของสังขารร่างกายก็จะไม่มีฤทธิ์ มองไม่เห็นในโลกทิพย์ ถ้าจิตวิญญาณดวงที่มีตาที่สาม จรจากร่างสังขารเมื่อไร เราก็จะไม่อาจใช้ฤทธิ์จากตาที่สามได้เลย ว่าแล้วก็ถึงคราวพวกเขาจากไป (เมื่อฝึกเสร็จแล้วจะจากไปเลย) เรื่องเลยจบลงเท่านี้ครับ...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment