อีกอย่างหนึ่ง ผมเคยได้ยินว่าคนจีนมีประเพณีแต่งงานกับป้ายวิญญาณ ในกรณีที่หมั้นหมายกันไว้แต่เด็กแล้วอีกฝ่ายหนึ่งตายลง เพื่อไม่ให้ผิดสัจจะสัญญาต่อกัน ก็จะทำพิธีแต่งงานกับป้ายวิญญาณครับ ในหนังเรื่อง "ดาบมังกรหยก" ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยพูดกับเตียบ่กี้ว่าจะแต่งงานกัน หรืออย่างไรไม่ทราบ แล้วเตียบ่กี้มัวแต่ลังเลใจ ไม่รู้จะเลือกใครดี อะไรแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เลยแต่งงานกับป้ายวิญญาณของเขา (เตียบ่กี้มีอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้เรียกครับ) ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นประเพณีที่มีคนทำต่อๆ กันมานานแล้วด้วย ปัจจุบัน ผมก็อยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ต้องมีคู่ครองเลยครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ก็เมื่อก่อนนั้นยังมีปัญหาบ้างว่าบางครั้ง เราไม่มีแฟน เราอาจจะเหงาๆ หน่อย รู้สึกถึงความว้าเหว่เป็นใช่มั้ยครับ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เหงา ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว เหมือนอิ่มพอ เต็มภายใน อะไรแบบนั้น มันก็สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องไปแสวงหาคู่ครองอะไรใดๆ ให้มันยุ่งยากอีก จบเรื่องง่ายๆ ใช้ชีวิตอย่างสันติสุขไปเท่านี้เอง
แต่งงานกับผี!
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งผมบวชพระแล้วและไม่มีสามเณรคู่หูคอยช่วยเหลือแต่มีอาจารย์ที่เป็นฆราวาสดูแลอยู่สองท่าน หลังจากที่ผมเคยให้สัจสัญญากับคนๆ หนึ่งว่าผมจะไม่มีแฟนเป็นคนอีก บวกกับผมถูกกดดันจากอาจารย์ให้มีเมีย คือ อาจารย์บอกว่าผมต้องมีเมีย ไม่งั้นไม่ผ่าน อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าผมทำอย่างนั้นก็จะผิดสัจจะทันที ผมจึงหาทางออกด้วยการ "แต่งงานกับป้ายวิญญาณ" ซึ่งไม่มีตัวตน ไม่มีสังขาร ก็ไม่้ผิดศีลแน่นอน (ศีลของพระไม่มีข้อห้ามแต่งงานกับป้ายวิญญาณนะครับ) ผมจึงแต่งงานกับป้ายวิญญาณ ทำพิธีง่ายๆ ครับ แค่จุดธูปแล้วกล่าวด้วยวาจาว่าเราจะแ่ต่งงานกับวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับเรา ก็เท่านั้น แล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติทุกอย่างก็ดูปกติเหมือนเดิม (ผมไม่มีใครมาใช้ตาทิพย์ช่วยดูให้ด้วยครับ) ผมยังเป็นพระอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งถึงวาระที่ต้องสึก คือ มีอะไรหลายอย่างบีบและกดดันทางอ้อมให้ต้องสึกก็ไม่ได้ยึดอะไร ก็สึกออกมา ได้ไปเยี่ยมอาจารย์และพบกับคนๆ หนึ่ง เขาเป็นคนทรง เขาเข้าทรงแล้วบอกว่าเรากับเขาเกี่ยวข้องกันมาก่อนในอดีตชาติ (คนทรงเป็นผู้หญิงครับ) ผมบอกว่าผมแต่งงานกับป้ายวิญญาณก็ถามเขาว่าแล้วมันจะเกิดผลอย่างไร? เขาบอกว่าผมแต่งงานกับผี ให้ไปหย่าเสีย ผมก็ทำ ไปทำพิธีหย่าให้ ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่ครับ มันก็แค่ "พิธีกรรม" เท่านั้นเอง ทั้งการแต่งงานและการหย่า ไม่ได้กระทบกระเทือนใคร ไม่ได้เชิญใครมาร่วมพิธี ไม่ได้ใช้เงินทองอะไรมากมาย แค่จุดธูป ๓ ดอกกล่าวต่อพระรัตนตรัยเป็นพยานเท่านั้นเอง ก็เลยทำไป ให้เขาได้สบายใจครับ (อีกอย่างผมก็มีสัจจะมีแฟนเป็นคนไม่ได้อยู่แล้วนี่)
อีกอย่างหนึ่ง ผมเคยได้ยินว่าคนจีนมีประเพณีแต่งงานกับป้ายวิญญาณ ในกรณีที่หมั้นหมายกันไว้แต่เด็กแล้วอีกฝ่ายหนึ่งตายลง เพื่อไม่ให้ผิดสัจจะสัญญาต่อกัน ก็จะทำพิธีแต่งงานกับป้ายวิญญาณครับ ในหนังเรื่อง "ดาบมังกรหยก" ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยพูดกับเตียบ่กี้ว่าจะแต่งงานกัน หรืออย่างไรไม่ทราบ แล้วเตียบ่กี้มัวแต่ลังเลใจ ไม่รู้จะเลือกใครดี อะไรแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เลยแต่งงานกับป้ายวิญญาณของเขา (เตียบ่กี้มีอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้เรียกครับ) ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นประเพณีที่มีคนทำต่อๆ กันมานานแล้วด้วย ปัจจุบัน ผมก็อยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ต้องมีคู่ครองเลยครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ก็เมื่อก่อนนั้นยังมีปัญหาบ้างว่าบางครั้ง เราไม่มีแฟน เราอาจจะเหงาๆ หน่อย รู้สึกถึงความว้าเหว่เป็นใช่มั้ยครับ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เหงา ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว เหมือนอิ่มพอ เต็มภายใน อะไรแบบนั้น มันก็สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องไปแสวงหาคู่ครองอะไรใดๆ ให้มันยุ่งยากอีก จบเรื่องง่ายๆ ใช้ชีวิตอย่างสันติสุขไปเท่านี้เอง
Artikel แต่งงานกับผี! ini dipublish oleh Unknown pada hari 1/31/13. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan แต่งงานกับผี!
อีกอย่างหนึ่ง ผมเคยได้ยินว่าคนจีนมีประเพณีแต่งงานกับป้ายวิญญาณ ในกรณีที่หมั้นหมายกันไว้แต่เด็กแล้วอีกฝ่ายหนึ่งตายลง เพื่อไม่ให้ผิดสัจจะสัญญาต่อกัน ก็จะทำพิธีแต่งงานกับป้ายวิญญาณครับ ในหนังเรื่อง "ดาบมังกรหยก" ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยพูดกับเตียบ่กี้ว่าจะแต่งงานกัน หรืออย่างไรไม่ทราบ แล้วเตียบ่กี้มัวแต่ลังเลใจ ไม่รู้จะเลือกใครดี อะไรแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เลยแต่งงานกับป้ายวิญญาณของเขา (เตียบ่กี้มีอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้เรียกครับ) ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นประเพณีที่มีคนทำต่อๆ กันมานานแล้วด้วย ปัจจุบัน ผมก็อยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ต้องมีคู่ครองเลยครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ก็เมื่อก่อนนั้นยังมีปัญหาบ้างว่าบางครั้ง เราไม่มีแฟน เราอาจจะเหงาๆ หน่อย รู้สึกถึงความว้าเหว่เป็นใช่มั้ยครับ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เหงา ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว เหมือนอิ่มพอ เต็มภายใน อะไรแบบนั้น มันก็สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องไปแสวงหาคู่ครองอะไรใดๆ ให้มันยุ่งยากอีก จบเรื่องง่ายๆ ใช้ชีวิตอย่างสันติสุขไปเท่านี้เอง
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment