มาถึง รุ่นของผมบ้าง เริ่มจากพี่สาวข้างบ้าน (ที่พ่อเคยไปอาศัยเขาอยู่ เมื่่อยังเล็ก) มีอยู่สองคน ทั้งสองคนก็ค่อยๆ หม้ายครับ คนโตหม้ายช้าหน่อย ตอนลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่คนเล็กหม้ายเร็วกว่ามากแค่ไม่ึถึง ๒ ปีเห็นจะได้มังครับ เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในหมู่บ้านของผม มีแม่หม้ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เยอะไปหมด จนพ่อพูดออกมาว่า "นี่มันเมืองแม่หม้าย" และไม่ใช่หม้ายเฉยๆ แต่เป็นหม้ายล่าผัวชาวบ้าน ก็มีครับ อย่างพ่อผม ก็ถูกล่าประจำแต่แกไม่ได้ทำผิดพลาด ก็เลยไม่หลงกลผีแม่หม้ายนั้นครับ มาถึง "น้องสาว" ของผมบ้าง ก่อนแต่งงานผมได้พบกับน้องสาวและแฟนของเขา ผมไม่ได้พูดอะไร เรื่องแบบนี้ เราไม่ควรไปยุ่ง หรือขวางใช่ไหมครับ จนในที่สุด เขาก็จะแต่งงานกัน แฟนของน้องสาวก็มา บอกผมว่า "เขาก็เล่นของนะมีพวกเมตตามหานิยมอะไรแบบนั้น" ผมก็เลยขอสัมผัสพลัง (โดยวิธีของผม) ปรากฏว่าตกกลางคืน น้องสาวคุยกับแม่ว่า "ทำไมต้องแต่งกับคนนี้ด้วยนะ ไม่ได้รักอะไรเลย" ทั้งๆ ที่ก็ไม่มีใครไปยุ่งวุ่นวายกับการตัดสินใจของน้องสาวเลย ไม่มีทั้งบังคับให้แต่งหรือว่าขัดขวางก็ไม่มีครับ แ่ต่เขาก็กลับคิดได้อย่างนั้น (ปกติ ผมสัมผัสพลังแล้วสิ่งๆ นั้น สามารถเสื่อมฤทธิ์ได้ครับ) แต่วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ต้องแต่งกันแล้วครับ จะมาเลิกกลางคันไม่ได้ ส่วนผมรู้สึุกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เลยขอตัวไปพักกับป้า แล้วก็สลายสิ่งไม่ดีที่ติดมาครับ (คงเป็นพลังเมตตามหานิยมของแฟนของน้องสาวผมละมังครับ) และแล้วเขาก็อยู่กันได้ไม่นาน น้องสาวก็ถูกเล่นงานอย่างหนักจนในที่สุด เขาก็ตัดสินใจเลิกครับ คิดว่าคงไม่เกิน ๒ ปีเห็นจะได้ ตอนเลิกแล้วน้องสาวก็เกลียดแฟนตัวเองมากเลยครับ จึงต้องกลายเป็นหม้ายอีกคน
มาที่ย่าของผมบ้าง เมื่อก่อนย่าอยู่อีกบ้านหนึ่งเป็นบ้านของย่าเอง แต่พอลุงเสียแล้ว ไม่มีใครดูแลย่า ก็เลยพาย่ามาที่บ้านผมครับ (พ่อไปรับมา) ย่าแก่มาก จนเดินไม่ไ่ด้ ย่าจะไปไหนก็จะกระเถิบๆ ไป ใช้มือและเท้าคล้ายๆ แมงมุมคลานเลยอ่ะ? ขอโทษนะครับ ไม่ได้กล่าวร้ายย่าตัวเอง ย่าผมเป็นคนดีครับ แต่สิ่งไม่ดีหรือผี ฯลฯ ก็อาจมาอยู่กับคนดีที่มีกรรมได้ครับ กระบวนการหม้ายในหมู่บ้านยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ จนล่าสุดคือ "ครอบครัวของยาย" ซึ่งยายคนนี้ไม่ได้มีเชื้อสายเดียวกับผม แต่เรารักและนับถือกันเหมือนยายจริงๆ กล่าวคือ ลูกชายของยายคนนี้ มีอันต้องเลิกกับเมียเขาครับ และผลร้ายแรงถึงขั้นแบ่งสมบัติ แยกบ้าน ยกบ้านกลับไปเลย รุนแรงจริงๆ อ้อ ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่า เืรื่องราวนี้เกิดขึ้นยาวนานมากนะครับ และผมคิดว่าคงยังไม่จบง่ายๆ หรอกครับ เพราะแม้แต่นายกไทย ก็ยังเป็นหม้ายไม่หายเลยนี่ครับ เอาละ มีช่วงหนึ่งที่ผมบวชอยู่แล้วมันมีอะไรสะกิดให้ผมทำตามสัจสัญญา (ในอดีตชาติ) ทั้งอาจารย์ก็บีบให้ผมไปแต่งงาน (ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมบวชพระอยู่นะครับ) อีกทั้งผมก็มีสัจสัญญาให้ไว้กับคนๆ หนึ่งว่า "จะมีเขาเป็นแฟนคนสุดท้าย" (ก็เลยแต่งงานกับคนไม่ได้นะครับ) ผมก็เลยเอ้า เอาว่ะ ทำให้มันจบๆ ไป ก็เลยทำพิธีแต่งงานกับป้ายวิญญาณครับ อธิษฐานว่า "ใครก็แล้วแต่ที่เราเคยติดค้างด้วยสัจสัญญามาในอดีตชาติว่าจะแต่งงานด้วยและไม่ได้แต่งงาน ก็ขอให้มาร่วมแต่งงานกันในวันนั้น" แล้วก็จบง่ายๆ ครับ ทำพอเป็นพิธี คือ จุดธูปบอก แล้วทำป้ายวิญญาณเขียนกว้างๆ ว่า "ภรรยา" ก็เท่านั้นเอง เราไม่ไ่ด้ผิดศีลปาราชิกนี่ครับ พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามพระสงฆ์แต่งงานเสียหน่อย ห้ามแต่ไม่ให้มีกามเท่านั้นเอง ต่อมา ผมจำต้องสึกจากพระเพราะเหตุจำเป็นทางการเงิน ผมได้พบคนทรงคนหนึ่ง เลยเล่าให้เขาฟัง เขาก็ว่าผมแต่งงานกับผีแล้ว ให้ไปหย่าเสีย ผมก็เลยทำพิธีหย่าไปครับ คือ จบกันไปเท่านั้นเอง เคลียร์กรรมเก่ากันครับ
เจ้าเมืองแม่หม้ายหลงรักพระถังซำจั๋งหวังจะครองคู่กับพระถังซำจั๋ง
0 comments:
Post a Comment