ผีฤษีเฝ้าถ้ำ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า ที่อาจารย์ฝ่ายฆราวาสของผมเล่าให้ผมฟังอีกที ท่านได้เล่าถึงครั้งที่ท่านจรไปตามป่าเขาและถ้ำต่างๆ ท่านได้พยายามบอกให้ใครหลายคน เช่น พระบางรูป ที่หลงยึดติดถ้ำ ให้หลุดพ้นจากการหลง ท่านบอกว่า พระบางรูป ทำสมาธิแล้วเห็นนิมิตรเป็นทองบ้าง สิ่งมีค่าบ้าง มากมาย ในถ้ำนั้นแล้วไม่ยอมไปไหน ยึดเอาถ้ำนั้นไว้ หวังว่าจะพัฒนาเป็นวัดอะไรแบบนั้น ท่านบอกว่าผีมันหลอกเอา มันทำให้เราเห็นนิมิตรด้วยอำนาจของมัน ครอบงำเรา ให้เราหลงเฝ้าถ้ำ จนตายคาถ้ำก็จะกลายเป็นผีปู่โสมเฝ้าถ้ำต่อจากมัน อยู่แทนผีมัน มันก็จะได้ไปจากที่นั่น ไปผุดไปเกิดเสียที ทว่า ไม่ว่าท่านจะพยายามบอกพระรูปไหน ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะท่านเป็นเพียงฆราวาสธรรมดา แต่พวกเขาล้วนถือตัวว่าเป็นพระ มีศักดิ์สูงกว่า ท่านเล่่าอีกว่าบางถ้ำที่ท่านเคยพบเจอ ท่านเห็นเหลือแต่เศษผ้าเหลือง ไม่มีแม้แต่เศษซากศพ นี่แหละ แม้แต่พระก็ไม่รอด อย่าหลงผ้าเหลืองกันเกินไป หลงดีในตัวเองกันเกินไป เพราะสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ ยังมีที่ลึกลับอีกมาก เหนือฟ้ายังมีฟ้าอยู่ เราไม่รู้ว่ามีอะำไรอยู่บ้าง ไม่ว่่าจะเป็นในถ้ำ ก็ดี หรือที่ไหนๆ ก็ดี อาจารย์จึงเตือนผมเสมอให้ระวังไว้ จะได้ไม่ประมาืท ทั้งยังสอนให้ผมรู้เท่าทัน "ผีเสื้อวัด" ด้วย ท่านว่าเดี๋ยวนี้คนหลงสร้างวัดกันมาก ตายไปเป็นผีเฝ้าวัด ผีเสื้อวัด กันเยอะ ท่านแนะนำให้ผมว่าไม่ต้องสร้างแล้ว พอแล้ว หลายคนทีเดียว ไม่รู้ตัวว่าเวลาทำสมาธินั้น อาจถูก "นิมิตรหลอก" เอาได้ จำต้องผ่านด่านนิมิตรหลอกให้ได้ก่อน จึงจะเห็น "โลกทิพย์ของจริง" ตาในที่เปิดแรกๆ ยังสับสนแยกไม่ออก จะถูกหลอกง่ายครับ บางคนถูกหลอกจนเลิกฝึกหรือไม่เชื่ออะไรที่เห็นไปหมดเลย ก็มี แต่ถ้าตาทิพย์ละเอียดดีแล้ว มันจะจับของจริง ระดับคลื่นความถี่จริงได้ มันจะไม่ถูกหลอกง่ายๆ แล้วครับ ทีนี้ ก็จะได้เห็นโลกทิพย์ของจริงได้ครับ


เนื่องจากอาจารย์ท่านนี้เป็นฆราวาส และไม่มีชื่อเสียงอะไร จึงไม่ค่อยมีใครเชื่อท่านนัก แต่ท่านก็ทำเครื่องรางของขลังบ้าง แล้วก็เลิกทำ ท่านว่าพวกเราเป็น "ผีบ้า" คือ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเขา ไม่เหมือนคนอื่นเขา ท่านล้อเล่นด้วยความเอ็นดูน่ะครับ นอกจากนี้ ท่านก็ระลึกชาติได้หลายชาติทีเดียว ท่านว่าแต่ละชาติไม่ค่อยได้เกิดเป็นคนธรรมดานัก มีแต่กษัตริย์บ้าง, พระดังๆ บ้าง ในบางชาติก็เคยเกิดเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ก็มี ซึ่งผมเข้าใจว่ามีบางท่านที่ได้ให้สัจสัญญากันไว้ว่าจะมาเกิดเพื่อช่วยเหลือพระศาสนาของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ในภัทรกัปนี้ ดังนั้น ท่านเหล่านี้ จึงเป็นหัวหอกสำคัญของศาสนาพุทธทั้ง ๕ ยุคกาลสมัย ไม่แปลกที่ท่านจะ่ผ่านยุคศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ มา  ซึ่งไม่ใช่อาจารย์ท่านนี้ท่านเดียว แต่ยังมีอาจารย์อีกท่านด้วย ซึ่งผมสัมผัสได้ว่าเข้าข่ายนี้ครับ



Penulis : Unknown ~ Sebuah blog yang menyediakan berbagai macam informasi

Artikel ผีฤษีเฝ้าถ้ำ ini dipublish oleh Unknown pada hari 2/16/13. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan ผีฤษีเฝ้าถ้ำ
 

0 comments:

Post a Comment