เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนผมจะบวชเณรปีหนึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังปฏิบัติในผ้าขาวตามสำนักปฏิบัติต่างๆ ซึ่งตอนนั้นผมยังอยู่ต่างจังหวัด คือ ที่ชลบุรี ยังไม่ได้กลับบ้าน ผมได้ไปปฏิบัติสมาธิตามแนวทางของท่านหนึ่งซึ่งเป็นฆราวาสหญิง จากเดิมที่เป็นคนนั่งสมาธิไม่เป็นเลย และนั่งได้ไม่นาน ผมก็นั่งได้นานขึ้นและเริ่มเพลิน ติดใจการนั่งสมาธิ ซึ่งในการปฏิบัตินี้ค่อนข้างเคร่งครัด เช่น ห้ามไม่ให้พูดกันเลย เพราะอาจจะรบกวนท่านอื่นๆ เนื้อหาในการปฏิบัติก็เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติปกติ คือ นั่งสมาธิสลับกับการเดินจงกลม ยังไม่มีการวิปัสสนา เมื่อนั่งสมาธิแล้วมีอาการอย่างไรบ้าง ก็จะมีการ "สอบอารมณ์" ก็จะมีผู้ที่มาช่วยคุยกับเราให้ว่าเราเ้ข้าทางบ้างหรือยัง? อะไรทำนองนั้น ผมก็ปฏิบัติไป เหนื่อยล้าไปบ้าง ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ทำไป ไม่ใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างตามที่เขาให้ฝึกหรอกนะครับ เหมือนคนทั่วไปครับ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย หรือทำได้ทุกอย่าง ก็หาไม่ สถานที่ปฏิบัติก็คือ "วัดเขาพุทธโคดม" บนยอดเขามองลงมาก็เห็นทะเลด้วย บรรยากาศดี สงบดีทีเดียว และเขาปฏิบัติกันมายาวนานหลายต่อหลายรุ่นแล้ว เมื่อถึงวันสอบอารมณ์ ผมก็ถูกแบ่งกลุ่มไปฟังหลวงพ่อรูปหนึ่ง แต่ผมเฉยๆ ไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับท่านนี้ ที่รู้สึกพิเศษคือ "อาจารย์หญิงท่านหนึ่ง" ซึ่งเป็นฆราวาสมาช่วยสอบอารมณ์ให้อีกกลุ่มหนึ่งครับ อาจารย์ไม่ได้คุยในอาคารเหมือนกลุ่มผม แต่ชวนกลุ่มนักปฏิบัติไปคุยที่เชิงเขา นั่งกันอยู่นานกว่ากลุ่มของผม
เมื่อผมเสร็จธุระในกลุ่มของผมแล้ว จึงเลียบๆ เคียงๆ ไปดูกลุ่มอื่นบ้าง ก็เห็นกลุ่มของอาจารย์หญิงท่านนี้ แต่ที่แปลกและตกใจอย่างแรกคือผมรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างคล้ายประกายเพชรส่องออกมาจากดวงตาของอาจารย์หญิงท่านนี้ (โดยไม่ได้หลับตาเพ่งดูนะครับ) ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีอะไร แต่ผมเหมือนเห็นจริงๆ ก็งงสิครับ? เอ ผมเห็นอะไรน่ะ? ผมเห็นจริงหรือเปล่า? ก็เลยเผลอมองตาอาจารย์ คือ มองว่ามันใช่อย่างที่ผมเห็นจริงๆ หรือเปล่า มองอยู่นั่นแหละครับ แล้วอาจารย์หญิงท่านก็มีลักษณะดี ไม่ถึงกับนางงามอะไร ขนาดนั้นแต่ก็มีลักษณะที่ดี (หน้าตาดีครับ) เหมือนคนมีบุญบารมี นั่นแหละครับ นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกได้ถึง "ความร่มรื่นชุ่มเย็น" รอบกายของอาจาีรย์ท่านนี้ ในหัวผมก็มีข้อมูลผุดขึ้นมาว่า "รัศมีสองเมตร" ซะงั้น คือ รอบๆ กายของอาจารย์ท่านนี้ จะมีพลังสงบเย็น ทำให้คนที่อยู่รอบๆ รัศมีสองเมตรสัมผัสได้และมีความอยากคุยอยากอยู่ใกล้ชิด แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนะครับ เพียงแต่สงสัยในสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้เท่านั้นว่าผมเห็นจริงหรือเปล่า? หรือว่าแค่ตาฝาดไป ในที่สุด ผมก็เลยเดินเข้าไปฟังเลยครับ ง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก ในกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องประสบการณ์ในการปฏิบัติอยู่แต่ผมไม่ได้ทราบประวัติอาจารย์ท่านนี้ จู่ๆ ผมก็ดันถามไปว่า "ตอนที่อาจารย์ไปธุดงค์ เป็นอย่างไรบ้าง?" ท่านก็ตอบมาว่าเป็นอย่างไร พร้อมทั้งเล่าประสบการณ์ให้ฟังคือ อาจารย์เคยบวชและไปธุดงค์เดี่ยวด้วย ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิง และก็อาจารย์ปฏิบัติจนถึงขั้นเห็นกายของตัวเองกลายเป็นดินแล้วสลายไป (เหมือนหลวงพ่อพุธ) ขณะที่กำลังทำสมาธินั้นแต่คุณเอะใจอะไรบ้างไหมว่า "แล้วผมรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ท่่านนี้เคยธุดงค์ถึงได้ถามว่าในตอนที่อาจารย์ธุดงค์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?" เพราะก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้เข้ามาฟังและไม่เคยทราบประวัติของอาจารย์เลย แล้วผมไปเอาข้อมูลเรื่องอาจารย์ท่านนี้ธุดงค์มาจากไหน เออ ตอนนั้นผมก็งงตัวเองแต่ก็ไม่มีใครสังเกตและไม่มีใครสักคนเอะใจว่า "อ้าว แล้วไอ้หมอนี่มันรู้ได้ไงละว่าอาจารย์เคยธุดงค์?" นั่นหละ ผมเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้บ่อยๆ ผมรู้อยู่คนเดียว คนอื่นเขาไม่ได้มารู้กับผมด้วยหรอก เราก็คุยกันไม่ต่างจากคนทั่วๆ ไป เท่านั้นเอง ผมเลยรู้สึกว่าอาจารย์หญิงท่่านนี้ มีลักษณะคล้ายเจ้าแม่กวนอิม ก็แค่นั้น
เมื่อผมเสร็จธุระในกลุ่มของผมแล้ว จึงเลียบๆ เคียงๆ ไปดูกลุ่มอื่นบ้าง ก็เห็นกลุ่มของอาจารย์หญิงท่านนี้ แต่ที่แปลกและตกใจอย่างแรกคือผมรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างคล้ายประกายเพชรส่องออกมาจากดวงตาของอาจารย์หญิงท่านนี้ (โดยไม่ได้หลับตาเพ่งดูนะครับ) ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีอะไร แต่ผมเหมือนเห็นจริงๆ ก็งงสิครับ? เอ ผมเห็นอะไรน่ะ? ผมเห็นจริงหรือเปล่า? ก็เลยเผลอมองตาอาจารย์ คือ มองว่ามันใช่อย่างที่ผมเห็นจริงๆ หรือเปล่า มองอยู่นั่นแหละครับ แล้วอาจารย์หญิงท่านก็มีลักษณะดี ไม่ถึงกับนางงามอะไร ขนาดนั้นแต่ก็มีลักษณะที่ดี (หน้าตาดีครับ) เหมือนคนมีบุญบารมี นั่นแหละครับ นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกได้ถึง "ความร่มรื่นชุ่มเย็น" รอบกายของอาจาีรย์ท่านนี้ ในหัวผมก็มีข้อมูลผุดขึ้นมาว่า "รัศมีสองเมตร" ซะงั้น คือ รอบๆ กายของอาจารย์ท่านนี้ จะมีพลังสงบเย็น ทำให้คนที่อยู่รอบๆ รัศมีสองเมตรสัมผัสได้และมีความอยากคุยอยากอยู่ใกล้ชิด แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนะครับ เพียงแต่สงสัยในสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้เท่านั้นว่าผมเห็นจริงหรือเปล่า? หรือว่าแค่ตาฝาดไป ในที่สุด ผมก็เลยเดินเข้าไปฟังเลยครับ ง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก ในกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องประสบการณ์ในการปฏิบัติอยู่แต่ผมไม่ได้ทราบประวัติอาจารย์ท่านนี้ จู่ๆ ผมก็ดันถามไปว่า "ตอนที่อาจารย์ไปธุดงค์ เป็นอย่างไรบ้าง?" ท่านก็ตอบมาว่าเป็นอย่างไร พร้อมทั้งเล่าประสบการณ์ให้ฟังคือ อาจารย์เคยบวชและไปธุดงค์เดี่ยวด้วย ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิง และก็อาจารย์ปฏิบัติจนถึงขั้นเห็นกายของตัวเองกลายเป็นดินแล้วสลายไป (เหมือนหลวงพ่อพุธ) ขณะที่กำลังทำสมาธินั้นแต่คุณเอะใจอะไรบ้างไหมว่า "แล้วผมรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ท่่านนี้เคยธุดงค์ถึงได้ถามว่าในตอนที่อาจารย์ธุดงค์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?" เพราะก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้เข้ามาฟังและไม่เคยทราบประวัติของอาจารย์เลย แล้วผมไปเอาข้อมูลเรื่องอาจารย์ท่านนี้ธุดงค์มาจากไหน เออ ตอนนั้นผมก็งงตัวเองแต่ก็ไม่มีใครสังเกตและไม่มีใครสักคนเอะใจว่า "อ้าว แล้วไอ้หมอนี่มันรู้ได้ไงละว่าอาจารย์เคยธุดงค์?" นั่นหละ ผมเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้บ่อยๆ ผมรู้อยู่คนเดียว คนอื่นเขาไม่ได้มารู้กับผมด้วยหรอก เราก็คุยกันไม่ต่างจากคนทั่วๆ ไป เท่านั้นเอง ผมเลยรู้สึกว่าอาจารย์หญิงท่่านนี้ มีลักษณะคล้ายเจ้าแม่กวนอิม ก็แค่นั้น