สุสานฤษี : ผจญภัยป่าหิมพานต์

เรื่องนี้ขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณอย่างสูงนะครับ เพราะเ็ป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เอาละ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งผมยังบวชเป็นสามเณรอยู่ (ประมาณปี 2551) ผมได้ให้ความช่วยเหลือสามเณรอีกรูปหนึ่งไว้ เพราะเขาเป็นคนต่างถิ่น ไร้ญาติขาดมิตร และแม่เพิ่งหย่ากับสามี ทำให้เขาถูกนำมาบวชเป็นสามเณร (ครอบครัวคงยังไม่ลงตัวน่ะครับ) มีคนมากมายชอบใส่ร้ายเขา โอเค ผมไม่ได้คิดว่าใครโกหก แต่เรื่องบางเรื่องมันไม่ใช่โทษหนัก เช่น สามเณรดื้อ, ซน, สกปรก ฯลฯ แหม มันก็ธรรมดาของเด็กละครับ (เขาอายุ ๑๔ ปีได้ครับในตอนนั้น) ถูกแกล้ง โดนคนรุมครับ ถึงขนาดไม่มีกุฏิจะอยู่แล้ว (น่าสงสารเนอะ) ผมบวชเณรแล้วก็เลยให้เขามาพักด้วยกันในกุฏิครับ แล้วก็ถือโอกาสนั้นอบรมสามเณรดู เพื่อให้เขาได้อะไรติดตัวไปบ้าง เพราะเขามาจากต่างถิ่นแดนไกลและตัวคนเดียวด้วย จากนั้น เราก็เลยให้เขาลองฝึกกรรมฐานต่างๆ ครับ ผมเริ่มต้นจากดูสามเณรก่อนว่าเขาอ่อนตรงไหน? พอไปได้ตรงไหน? ดูแล้ว สติยังอ่อนกำัลัง แต่สมาํืธิและปัญญาใช้ได้เลยละ ก็เลยให้เขาเดินจงกลม พอเริ่มใช้ได้แล้วก็เริ่มเข้ากรรมฐานที่ยากขึ้น แรกๆ ก็กสิณเพ่งทางใน แรกๆ แกก็ไม่ได้อะไีรหรอก ต่อมาเริ่มฝัน เราก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ต่อมา แกเริ่มนั่งแล้วเห็นลางๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ชัดเจน ก็เลยฝึกต่อไป จนเริ่มชัดขึ้นแล้ว (ปกติ คนอายุไม่มากและยังไม่เคยมีกามจะฝึกง่ายนะครับ แก่มากๆ เข้า มันมีอะไรปนเยอะครับ) ในที่สุดก็เปิดตาทิพย์ได้สมบูรณ์ จากนั้น ผมก็เลยประสานงานกันดึงเขาทำงานในโลกทิพย์เสียเลย ด้วยผมมีกรรมทำให้ "ตาทิพย์บอด" ตอนเขาได้ตาทิพย์แล้ว ผมก็ให้เขาช่วยครับ ทั้งถอดกายทิพย์ซ้อนเข้าในกายผม เพื่อทะลวงเอาพลังดำที่อัดอยู่ในท่อตาทิพย์ออกมา ทั้งเอาหยกทิพย์ที่ปิดตาที่สามอยู่ออก ทั้งเอาหินทิพย์ที่ขวางอยู่ในท่อตาทิพย์ออก แล้วมันก็ไม่จบ พลังดำมากมายอัดเข้ามาเต็มตาทิพย์อีก สรุป "ตาทิพย์ผมเลยบอด" เอ้า ไม่ว่ากัน ก็ทำงานในมิติทิพย์ทั้งๆ ที่ตาทิพย์บอดนี่แหละว้า ว่าแล้วก็เลยอาศัยเณรช่วยกันทำงานครับ ไม่นานเท่าไรเราสื่อเชื่อมโยงกับ "หลวงพ่อโต พรหมรังสี" ได้ ท่านก็มาช่วยโปรด เป็นครูทางโลกทิพย์ให้เราสองคน วันหนึ่ง ท่านก็มาชวนไป "ป่าหิมพานต์" ครับ ตอนจะเข้านั้น จะมีประตูอยู่ มีเทพคุ้มครองอยู่ ๔ องค์ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ท่านลงมาต้อนรับ (เพราะบารมีหลวงพ่อโตน่ะครับ) แล้วก็เปิดประตูให้เราเข้าไปได้ แล้วด้วยบารมีหลวงพ่อโต ท่านก็มีราชรถนำพาเราไปด้วยครับ (ผมมองไม่เห็นอาศัยสามเณรคอยบอกให้) ในที่สุดก็ถึงเป้าหมายที่ท่านต้องการพาเราไปบำเพ็ญกัน นั่นคือ "สุสานฤษี"


สุสานฤษีอยู่ในป่าหิมพานต์ นั่นเอง เป็นที่ๆ รวมจิตวิญญาณของฤษีที่ตายลงในป่าหิมพานต์มากมายแล้วยังไม่ไปผุดไปเกิด ยังคงสถิตย์อยู่ที่นั่นด้วยอำนาจของฤทธิ์และตบะที่บำเพ็ญมา เมื่อกายทิพย์ของเราทั้งสามไปถึงแล้ว ก็เลยเริ่มประสานสามพลัง ช่วยกันโปรดครับ ทำให้ดวงจิตเหล่านั้นสว่างขึ้น แล้วก็หลุดลอยออกมาจากสุสานเหล่านั้น แต่ก็ยังไม่หมดครับ เพราะว่า "เยอะมากๆๆ" ดังนั้น ครั้งแรก เราก็เลยกลับมาพักก่อน ผมบอกว่าเหนื่อยแล้ว (พลังจิตลดลง จำต้องกลับมาฟื้นสภาพ แต่สามเณรนั้นยังดีอยู่ครับ) หลวงพ่อโตก็ล้อผมว่า เท่านี้เองไม่เห็นจะเหนื่อยเลย ครั้งที่สอง หลังจากผมฟื้นพลังได้พอตัวแล้ว เราก็กลับไปทำงานกันอีกรอบครับ คราวนี้ สามท่านรวมพลังกัน ทำให้เคลียร์สุสานฤษีในป่าหิมพานต์ได้ครับ ผมถามหลวงพ่อโตว่ามีสถานที่ไหนบ้างไหมที่ยังปลดปล่อยไม่หมด ท่านก็ว่าที่สำคัญๆ ไม่เหลือแล้ว (จะมีก็แต่ที่ไม่สำคัญเล็กๆ น้อยๆ อะไรแบบนั้น) สำหรับเรื่องสุสานฤษีในป่าหิมพานต์ขอจบลงเท่านี้ก่อนครับ

Penulis : Unknown ~ Sebuah blog yang menyediakan berbagai macam informasi

Artikel สุสานฤษี : ผจญภัยป่าหิมพานต์ ini dipublish oleh Unknown pada hari 11/17/12. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan สุสานฤษี : ผจญภัยป่าหิมพานต์
 

0 comments:

Post a Comment