ศึกไสยศาสตร์ ตอนที่ ๒

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งผมยังบวชเป็นสามเณร และมีสามเณรคู่หูคอยช่วยเหลืออยู่ด้วย เรื่องเริ่มจากเมื่อเราเริ่มฝึกอภิญญากันนั้น ที่วัดมีเจ้าอาวาสอยู่คนหนึ่งที่ชอบเรื่องไสยศาสตร์มาก ท่านมีอาจารย์ที่เป็นฆราวาสอยู่อายุมากพอควร แล้วทั้งหมดนั้นก็ขลุกอยู่กับเรื่องเวทย์มนต์คาถา่ต่างๆ อันเป็นเรื่องธรรมดาของคนในชนบทอย่างเรา ส่วนพวกผมนั้น ไม่ไ้ด้นิยมคาถาเท่าไรนัก เพราะพูดตามความจริงคือ ผมเป็นคนขี้เกียจจำ ไม่ชอบจำอะไรทั้งนั้น ยกเว้นว่ามันจะน่าสนใจจริงๆ แล้วมันประทับใจเราเอง เราไม่ต้องไปท่องจำ มันก็ชัดเจนในใจเราเอง อะไรแบบนั้น แรกๆ ที่ผมอยู่วัดเราก็ค้นพบว่าอย่างแรก กุฏิที่ผมอยู่นั้นมีพระพุทธรูปเก่าๆ องค์หนึ่ง ใต้ฐานมีกระดาษเขียนคาถาติดไว้ เป็นคาถาเมตตามหานิยมอะไรแบบนั้น ก็คงไม่ได้เอาไว้ให้เราหรอก แต่เขาคงทำไสยศาสตร์เอาไว้ให้ตัวเองนานแล้ว เราก็เคลียร์ออกไป ยังไม่จบ เนื่องจาก เจ้าอาวาสรูปนี้ ซึ่งมีฉายาทางพระที่เขาแต่งตั้งกันแปลว่า "ญาณแจ่มใส" ด้วยสิ เพราะว่าหูทิพย์ตาทิพย์ชัดแจ๋ว เวลาทำนายทายทักอะไรใคร ก็จะมี "พรายกระซิบ" คอยบอกเรื่องราว ทำให้เหมือนรู้ไปหมดทุกอย่าง แล้วก็เห็นมิติทิพย์ ภูติผี, เทวดา ด้วย เรียกว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าสามเณรคู่หูของผมเลย แถมยังเชี่ยวชาญในไสยศาสตร์สายขอม พร้อมกับมีพระต่างวัดมาขอเป็นศิษย์ของเจ้าอาวาส เรียนเวทย์มนต์คาถาอยู่ด้วย เรื่องมันก็เลยเกิดคือ มันมีมาเป็นระยะนะครับ แต่เราเคลียร์ได้ และไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามาจากไหน เลยไม่กล้าพูดครับ อย่างเช่น บางวันสามเณรมาบ่นว่าปวดท้องมาก เขาว่าน่าจะโดนทำแล้ว เขาก็เห็นใต้ถุนศาลาวัดมี "หนังควาย" อยู่ เราก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ ฟังไว้เฉยๆ เท่านั้น มันจับไม่ได้นี่ครับ แต่สงสัยเท่านั้นว่าเราอาจตกเป็นเหยื่อ เพราะวิถีทางของเราต่างกัน ของเขาเป็นครูสายเขมร แต่เรามาทางสายเซียน สายพราหมณ์ฤษี สายล้านนา อะไรนั่น มันอาจจะกระทบกระทั่งกันได้เมื่ออยู่วัดเดียวกัน แต่ผมก็ไม่อาจสรุปได้ มีวันหนึ่ง พระคนสนิทของเจ้าอาวาสเอาประคตมาให้ผมๆ ก็รู้แน่ว่าเขาทำผมแน่ แต่ก็จำต้องรับน่ะครับ ไม่ให้เกิดปัญหา มีพิรุธ แต่ผมก็ผ่านไปได้ ไม่มีเรื่องครับ ต่างคนต่างอยู่เท่านั้นเอง


จนผมสึกจากวัดนั้นมานานแล้ว ผมได้ยินทางวัดพูดเสียงตามสายเรื่องในรถของเจ้าอาวาสมี "หนังหมี" ด้วย เขาบอกว่าเอาไว้กัน "ผีกะ" แล้วแม่ผมก็ได้ยินคนที่ทำงานในวัด พูดเตือนมาว่า อย่าให้ลูกมึงไปยุ่งอะไรกะเขานะ อย่าไปทำอะไรในป่าช้า (เขาคงหวังดี ไม่อยากให้เราเข้าไปเอี่ยวในวังวนไม่ดีเหล่านั้นด้วย เดี๋ยวจะเอาตัวไปเีสี่ยงน่ะครับ) แล้วอยู่ดีๆ อาจารย์ของเจ้าอาวาสที่เป็นฆราวาส ซึ่งเคยแข็งแรงมาช่วยกันสร้างโบสถ์ได้ ไม่ได้ป่วยอะไร ก็ตายครับ เขาคุยกันเงียบๆ ตายแบบเงียบๆ ไม่ค่อยให้ใครรู้มาก แ่ต่ทำเอาพระในวัด เกิดหวาดระแวงขึ้นมา อันนี้ ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้วครับ เพราะผมก็ออกมาแล้ว แต่ผมเข้าใจครับ คนที่เล่นของ มันจะเข้ากันไม่ได้ ถ้ามาคนละสายกัน และของมันตีกันเองได้ อยู่ใกล้กันมากไม่ได้ครับ พระบางรูปก็ยังต้องแยกวัดกันอยู่เลย เพราะของมันตีกัน เหมือนคุณเลี้ยงแมว แต่เพื่อนบ้านเลี้ยงหมา แล้วมันไปกัดกัน อะไรแบบนั้น มันก็จะนำเรื่องกระทบกระทั่งมาสู่คุณได้ นั่นเองครับ



Penulis : Unknown ~ Sebuah blog yang menyediakan berbagai macam informasi

Artikel ศึกไสยศาสตร์ ตอนที่ ๒ ini dipublish oleh Unknown pada hari 1/19/13. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 1comments: di postingan ศึกไสยศาสตร์ ตอนที่ ๒
 

1 comments:

  1. ตายไปก็ดีแล้ว (คนชั่วสมควรโดนนน)

    ReplyDelete