โดนพระทำคุณไสย์

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งผมยังไม่ได้บวชเป็นสามเณร และกำลังปฏิบัติธรรมในเพศฆราวาสอยู่ ในช่วงนั้นผมก็มีอาจารย์สอนธรรมที่เป็นฆราวาสดูแล โดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ชื่อ "กล้องเคอเลี่ยน" ถ่ายออร่าดูผลการปฏิบัติธรรมเป็นระยะ ในช่วงนั้น เป็นช่วงงาน "วิทยาศาสตร์ทางจิต" ผมจึงไปแวะดูงานแล้วผมเห็นคงหลงต่อคิวยาวเพื่อรอดูดวงโดยแม่ชีรูปหนึ่งผมเห็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่นั่นด้วย เพื่อนคนนี้เป็นคนดีแต่โง่ซื่อ เชื่อคนง่าย สุดท้าย ก็เลยเห็นว่าอยากช่วยเพื่อน ดึงออกมาจากอะไรที่ไม่ใช่ ก็เลยไปคุยด้วยแล้วเสียงดัง คนที่เขาต่อคิวรอกันได้ยิน คือ ผมพูดประมาณว่าการดูดวงทำนายทายทัก ไม่ใช่ทางที่พระพุทธเจ้าสอน จนแม่ชีรูปหนึ่งมาไล่ผมออกไปจากบูทของเขา ผมออกไปแล้วเจอกับเพื่อนอีกคนจบวิศวกร แล้วไปต่อปริญญาโทจากต่างประเทศ ผมจึงเข้าไปคุยด้วย ถามเขาว่าเจ้าอาวาสในวัดของแม่ชีคนนี้ เขาสอนอะไร ทำอะไรบ้าง พระเพื่อนก็เล่าว่าฝึกฤทธิ์เยอะแยะเลย เล่าอย่างตื่นเต้นและศรัทธาเอามากๆ ฉับพลัน มือถือก็ดังขึ้น แล้วพระเจ้าอาวาสก็เรียกให้ไปฉันข้าว ผมไม่เชื่อใจ ผมแอบตามไปดู ก็ไม่เห็นว่าท่านจะฉันข้าวจริงๆ (ท่านกำลังสอนคนอยู่อีกที่หนึ่งด้วย) จากนั้น ผมก็ไปถ่ายออร่า ได้ออร่าดำที่หัวมาเลย แต่อาจารย์ไม่มีเวลาดูให้ คืนนั้นเอง ผมก็ถูกคุณไสย์กระทำทั้งคืน มันคุมจิต กดจิต เล่นงานให้เราจิตตกสุดๆ พอตอนเช้ามาผมตืานขึ้นมาแบบแย่มากๆ ไม่ผ่องใสเลย แทบไม่มีความคิดอะไร สมองไร้ประสิทธิภาพ ไม่ปลอดโปร่งเลย ผมเอามาให้อาจารย์อ่าน อาจารย์ตกใจแล้วรีบให้ผมไปทำสมาธิ แต่ไม่ได้บอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ต่อมา ผมไปฟังอาจารย์อีกบูทหนึ่งสอนวิธีรักษาตัวเอง แล้วอาจารย์คนนั้นเหลือบมาเห็นผม ปั๊บ แกก็เลยสาธิตให้ทุกคนลองทำดูเลย ตอนบรรยายจบ ผมก็เข้าไปถามอาจารย์ว่าอาจารย์เห็นอะไรใช่ไหม? อาจารย์เงียบ ไม่พูดสักคำ ไม่ยอมปริปากบอกเลย ต่อมา ไม่นาน ผมโล่งหาย อาจเป็นพระอาจารย์ทั้งสองต่างช่วยกระมัง อยู่ๆ ก็รู้ขึ้นได้เองว่าเราโดนคุณไสย์แล้ว และรู้อีกว่าใครทำเราด้วย (แปลกดี) ไม่จบแค่นั้น ผมโมโหจะเอาเรื่องละ เลยไปดูว่าเจ้าอาวาสรูปนั้น อยู่ตรงไหน พอดีไปเจอ "อาจารย์ตาที่สาม" ก่อน เลยให้ท่านดูภายในให้ ท่านหยุดเลย พอถึงผม ท่านไปกินน้ำ ทำใจนานพักหนึ่ง แล้วไม่ค่อยพูดอะไรเลย บอกแค่ว่า "เมตตา อภัยนะ" อะไรประมาณนั้น แล้วท่านก็เขียนในใบตรวจว่าริมฝีปากผมมีสีม่วง (พลังออร่าสีม่วงที่ปาก) ท่านบอกว่า "อย่่าไปแช่งใครนะ" แล้วผมจึงออกจากบูทไปเจอเจ้าอาวาสรูปนั้น กำลังบรรยายธรรมอยู่ ผมเข้าไปนั่งตรงหน้าเลย ท่านตกใจ แต่ทำเป็นสอนต่อไป เหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็ดูไปเรื่อยๆ ในที่สุด ก็คิดได้ว่า "อย่าเลย ช่างเถอะ ปล่อยไปตามกรรม" ผมเลยไม่อยากเอาเรื่อง สุดท้าย ก็ลุกออกไปเฉยๆ ไม่ว่าอะไร แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้ คนที่รู้ไม่ใช่ผมคนเดียว


หลักฐานการถ่ายออร่่าแล้วติดอะไรแปลกๆ มา คนทั่วไปอ่านและแปลมันไม่ได้ แต่อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูออกนั้น ผมมีสองใบ ถ่ายวันแรก ผมโดยเป็นก้อนสีน้ำเงินทึบหม่นหมองกดจนรัศมีสีทองของผมในยามนั้นเหลือเป็นเพียงจุดเล็กๆ นิดเดียว ซึ่งก้อนนี้ ผมเคลียร์ได้เองก่อนรุ่งเช้า ด้วยการนั่งสมาธิแล้วเข้าฌาน ก็หายไปเองได้ วันต่อมา ผมโดนอีกทีตอนเช้าเลย พอถ่ายออร่าคราวนี้่เป็นก้อนสีแดงหม่นหมองกดพลังรัศมีสีทองของผมจนเหลือแต่จุดเล็กๆ อีกเช่นกัน ผมคิดว่า งานนี้ มีอาจารย์อย่างน้อย ๓ ท่าน รู้เห็น ทว่า มันเป็นเรื่องระดับทิพย์ที่คนทั่วไป ไม่อาจมองเห็นได้ ก็เท่านั้นเอง เรื่องก็เลยจบลงเพียงเท่านั้นครับ



Penulis : Unknown ~ Sebuah blog yang menyediakan berbagai macam informasi

Artikel โดนพระทำคุณไสย์ ini dipublish oleh Unknown pada hari 1/13/13. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 0 komentar: di postingan โดนพระทำคุณไสย์
 

0 comments:

Post a Comment