บำเพ็ญเซียน

เรื่องนี้เกิดเมื่อครั้งผมยังบวชเป็นสามเณรอยู่และมีสามเณรคู่หูคอยช่วยทำกิจ เนื่องจากเราทั้งคู่ไม่อาจจะหาครูบาอาจารย์ที่ดีและไว้ใจได้แถวนั้น ในที่สุด จึงตัดสินใจเืลือกครูบาอาจารย์ต่างภพ คือ ครูอาจารย์ที่อยู่บนสวรรค์ เช่น หลวงพ่อโต, พระกวนอิม เป็นต้น ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ล้วนบรรลุธรรมหมดแล้ว เราจึงเข้าสู่วิถีการบำเพ็ญแบบเซียนไปโดยไม่รู้ตัว กล่าวคือ เหล่าเซียนเต๋าทั้งหลาย เขาจะฝึกถอดกายทิพย์และมีอาจารย์บนสวรรค์กันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่วิถีพระพุทธศาสนาที่ต่อสายธรรมจากมนุษย์สู่มนุษย์โดยตรง (ผลจากการต่อสายธรรมบนสวรรค์ทำให้ผู้บำเพ็ญมีสักกายทิฏฐิเหลืออยู่ ไม่บรรลุโสดาบัน แต่จะบรรลุถึงขั้นเซียนได้ อันนี้คือข้อแตกต่าง) แล้วในที่สุดเราก็ได้เชื่อมต่อสายธรรมกับเซียนจริงๆ คือ ท่านเหล่าจื้อ, ท่านขงจื้อ และเซียนเต๋าบนสวรรค์อีกหลายท่าน ครั้งหนึ่ง สามเณรคู่หูไปหาท่านเหล่าจื้อ แต่ท่านหลบไปไม่ยอมพบแล้วก็มีค่ายกลขวางไว้ คราวนั้น เราก็ตีปริศนาว่าบางครั้งเราอาจใช้การหลบเลี่ยงได้ แทนที่จะปะทะกับบางสิ่ง แม้ท่านไม่ได้สอน ไม่ไ่ด้บอก เราก็นับเป็นธรรมเตือนใจ ต่อมาได้ไปพบท่านขงจื้ออีก ได้ถามท่านว่าทำไม ท่านจึงชอบสอนให้คนอ่่อนน้อมถ่อมตน ท่านก็ตอบมาง่ายๆ ว่า "สูงเกินไปคนเอื้อมไม่ถึง" เท่านั้นเอง เราก็เอามาเป็นธรรมเตือนใจเรา แม้จะมีเพียงข้อเดียวก็ตาม ต่อมาได้พบกับเซียนอีกท่านหนึ่ง เราถามสามเณรว่าวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นนั้นเป็นอย่างไร? อยู่ๆ ท่านก็จี้จุดลงบนกายทิพย์ของสามเณรเฉยเลย อ้าวแล้วอย่างนี้ กายสังขารของเราจะได้ผลด้วยหรือ? (เพราะถอดกายทิพย์ออกไปนี่นา) แต่ท่านก็ไม่บอกเคล็ดวิชาเราเสียอย่างนั้น ต่อมา ได้พบกับท่านเซียนอีกท่านหนึ่ง ท่านบอกคาถาสี่คำมาให้ เราก็บริกรรมไป ในที่สุด ก็สำเร็จเป็น "กระบี่ทิพย์" ออกมา ๔ เล่ม ติดอยู่ในกายทิพย์เราแต่ยังไม่ได้ใช้่ไปทำกิจอะไร ต่อมา กายเซียนนั้นก็หลุดพ้นไปเสียก่อน สรุปแล้ว เราบำเพ็ญเซียนไม่ต่างจากความว่างเปล่าเลย?


วิถีเซียนแตกต่างจากวิถีพุทธ จุดสำคัญคือ เรื่องการเข้าถึงธรรมด้วยตัวเอง เพราะไม่ว่าเซียนท่านใดจะให้ธรรมแก่เรา ท่านก็มักไม่ค่อยให้ตรงๆ หรือให้ก็น้อยมากๆ เป็ฺนปริศนาให้ไปขบคิดเองต่อหรือไปปฏิบัติเองต่อ เสียส่วนใหญ่ อีกทั้งไม่มีการสืบทอดต่อแบบมนุษย์ต่อมนุษย์ ยกเว้นจาก สามเณรคู่หูมาบอกผมต่อ ก็นับว่าผมรับข้อมูลต่อจากสามเณรอีกที ตอนนั้น เบื้องบนท่านให้สามเณรคู่หูไปหาไม้เท้ามาไว้ บวกกับในกายทิพย์ของเขาก็มีน้ำเต้า อันเป็นสัญลักษณ์ของเซียนองค์ที่หนึ่งส่วนผมหลังจากนั้นก็ำได้รับพัดทิพย์มาจากองค์หญิงพัดเหล็ก อันเป็นสัญลักษณ์ของเซียนองค์ที่สอง (เนื่องจากผมรับข้อมูลจากสามเณรอีกทีไงครับ จึงนับสามเณรเป็นคนที่หนึ่งไป) คำถามจึงเกิดขึ้นว่าแล้วทำไม เราเ็ป็นสามเณรในพุทธศาสนาจึงต้องไปบำเพ็ญเซียนเช่นนั้นด้วย? คำตอบคือ เพราะธรรมะที่บริสุทธิ์ ตรงทางแท้จริง เราหาบนโลกไม่เจอ เราจึงต้องใช้วิธีสืบสายธรรมแท้จากสวรรค์แทน อันเป็นวิถีเซียนเขาทำกัน เมื่อใดที่เราถูกทำลายสักกายทิฏฐิ แล้วมีจิตตรงธรรมได้ เราก็เข้าสู่วิถีพุทธเช่นกัน ไม่ต่างจากชาวพุทธที่สำเร็จอริยบุคคลแล้ว นั่นเอง



Penulis : Unknown ~ Sebuah blog yang menyediakan berbagai macam informasi

Artikel บำเพ็ญเซียน ini dipublish oleh Unknown pada hari 2/3/13. Semoga artikel ini dapat bermanfaat.Terimakasih atas kunjungan Anda silahkan tinggalkan komentar.sudah ada 2 komentar: di postingan บำเพ็ญเซียน
 

2 comments:

  1. บ่อยากจะเชื่อเลย

    ReplyDelete
  2. แล้วเขาฝึกกันยังแหละเชียนๆนี่

    ReplyDelete